GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "The Elder Scrolls"
James McAvoy ติด The Elder Scrolls IV: Oblivion มากจนต้องเผาแผ่นทิ้ง!
ถ้าพูดชื่อ James McAvoy ขึ้นมาเฉยๆ ใครหลายคนก็อาจจะสงสัยว่าเขาเป็นใครกันแน่ แต่หากบอกว่าเขาคือนักแสดงที่รับบทบาทเป็น Professor X ในวัยหนุ่ม จากภาพยนตร์ในซีรีส์ X-Men หรือจากภาพยนตร์ชื่อดังเรื่องอื่นจากฮอลลีวูดอย่าง Atonement, It: Chapter Two และ The Great British Bake-Off หรือกระทั่งการเข้ามาเป็นหนึ่งในนักพากย์หลัก ให้กับเกมแนวผจญภัยที่เพิ่งเปิดให้เล่นในวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาอย่าง 12 Minutesใครหลายๆ คนเองก็อาจจะพอร้องอ๋อกันออกมาได้บ้าง จากบทสัมภาษณ์ภายในนิตยสาร Forbes นักแสดงหนุ่มอายุน้อยและมีชื่อเสียงอย่าง James McAvoy ก็ได้ออกมาพูดถึงวิดีโอเกมว่า เขาเล่นและติดเกม The Elder Scrolls IV: Oblivion มาก “มันเป็นเกมประเภทที่ผมเคยเล่นมาก่อนตอนเด็กๆ พวกเกมสวมบทบาทแบบ Zelda กับ Secret of Mana หรืออะไรเทือกๆ นั้น ผมชอบเกมแนวแฟนตาซีสวมบทบาทแบบนี้แหละ” McAvoy กล่าวอย่างไรก็ดีความรักที่เขามีต่อ The Elder Scrolls IV: Oblivion ก็เริ่มกลายเป็นปัญหาในตอนที่เขารับบทเป็นพระเอก ในหนังโรแมนติก-ดราม่าอิงประวัติศาสตร์ย้อนยุค เรื่อง Becoming Jane ร่วมกับ Anne Hathaway “ผมต้องเข้านอนตอน 4 ทุ่มเพื่อตื่นไปเข้ากองตอน 6 โมงเช้าในทุกๆ วัน แต่เพราะผมติดเกม Oblivion มาก สุดท้ายก็นั่งเล่นมันจนถึงตี 4 ทุกที แล้วมันก็มีครั้งนึงที่ผมลากยาวไปจนถึงตี 5 ครึ่ง แล้วอีก 10 นาทีรถก็จะมารับเข้ากองแล้ว! ผมก็เลยต้องหาทางแก้ปัญหาด้วยการเปิดเตาแก๊ส แล้วก็เอาแผ่นเกมไปเผาเสียเลย สำเร็จ! เราจบกันที่นี่ตรงนี้ ไม่เอาอีกแล้ว!”ซึ่งนั่นก็คือสุดสิ้นสุดของ James McAvoy กับ Oblivion แต่ที่น่าตลกไปมากกว่านั้นเลยก็คือ 4 ปีถัดมาตัวเขาก็ได้สานต่อบท Professor X ซึ่งเป็นบทบาทที่ถูกริเริ่มโดย Patrick Stewart นักแสดงอาวุโสผู้รับบทเป็น Emperor Uriel Septim VII ใน Oblivion นั่นเอง…แต่แม้ว่า James McAvoy จะสาบานต่ออะไรก็ตามในตอนนั้นว่าเขาจะเลิกเล่นเกม ทุกวันนี้เขาก็หวนกลับสู่วงการในช่วง Covid-19 พร้อมกับผองเพื่อนในเกม Call of Duty: Warzone “ผมกับเด็กๆ ของผมทั้ง 40 คน พวกเราคุยกันทุก 2-3 คืนเพื่อเล่น Warzone กัน แล้วในตอนที่เรากำลังคุยเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ความรัก และอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมากัน พวกเราก็โดนเด็กอายุ 12 จากประเทศอื่นถล่มเอารัวๆ เลย”เรียกได้ว่าเป็นข่าวขำขันสั้นๆ ที่เรียกรอยยิ้มจากเราได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แม้ว่าตอนนี้ด้วยสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น จะทำให้ผลงานเรื่องใหม่ๆ ของ James McAvoy ยังไม่สามารถออกมาโลดแล่นสู่สายตาชาวโลกได้ แต่คุณก็ยังสามารถแวะเข้าไปฟังเสียงของเขาให้หายคิดถึงได้บ้างใน 12 Minutes เกมอินดี้ผจญภัยจากผู้พัฒนาอย่าง Luís António ที่วางจำหน่ายแล้วสำหรับ Xbox Series X/S, Xbox One และ PC ค่ะCredit: PCGamer
23 Aug 2021
The Elder Scrolls Online จะลง PS5 กับ Xbox Series X / S วันที่ 8 มิถุนายน 2021
หลังจากประกาศว่าจะมีการพอร์ต The Elder Scrolls Online มาลงให้กับเครื่องคอนโซลเจนใหม่อย่าง PS5 กับ Xbox Series X / S ด้วย ล่าสุดก็ได้มีการประกาศวันที่ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว 8 มิถุนายน 2021 นี้พบกันแน่นอนสำหรับเวอร์ชันนี้กราฟิก, แสงเงา, ความละเอียดของพื้นผิว จะมีความสวยงามกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ผู้พัฒนาได้มีการปล่อยวิดีโอใหม่ ที่โชว์ความแตกต่างให้เห็นกันชัดๆ ออกมาด้วย สำหรับความเร็วในการดาวน์โหลดจะแตกต่างจากเครื่องเจนก่อนเป็นอย่างมาก ต้องขอบคุณ SSD ในเครื่องเล่นเกมเจนใหม่The Elder Scrolls Online วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ตัวเกมเตรียมลงให้กับ PS5 กับ Xbox Series X / S วันที่ 8 มิถุนายน 2021<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/DrqRUcSLVd4' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit: https://gamingbolt.com/the-elder-scrolls-online-console-enhanced-comes-to-ps5-xbox-series-x-s-on-june-8
01 Apr 2021
Xbox Games Pass เตรียมเพิ่ม IP ชื่อดังของ Bethesda เข้ามาอีกกว่า 20 เกม
เรียกได้ว่าเป็นข่าวโคตรดีของชาว Xbox ในวันนี้ เมื่อมีการประกาศออกมาว่า IP เกมชื่อดังของ Bethesda ไม่ว่าจะเป็น Doom, The Elder Scrolls, Fallout, Dishonored และอื่นๆ อีกมากมายให้สมาชิก Xbox Games Pass สามารถโหลดมาเล่นได้ สำหรับชาว PC และมือถือ ที่เป็นสมาชิกระดับ Ultimate จะสามารถสัมผัส 16 จาก 20 เกมได้ผ่านระบบ Cloud Gaming ของ Xbox ด้วย โดยสามารถดูรายชื่อว่าเกมไหนสามารถเล่นที่ไหนได้บ้างข้างล่างนี้ Dishonored Definitive Edition (Console, PC, Cloud) Dishonored 2 (Console, PC, Cloud) Doom (1993) (Console, PC, Cloud) Doom II (Console, PC, Cloud) Doom 3 (Console, PC, Cloud) Doom 64 (Console, PC, Cloud) Doom Eternal (Console, PC, Cloud) The Elder Scrolls III: Morrowind (Console, PC) The Elder Scrolls IV: Oblivion (Console, PC) The Elder Scrolls V: Skyrim Special Edition (Console, PC, Cloud) The Elder Scrolls Online (Cloud, Console) The Evil Within (Console, PC, Cloud) Fallout 4 (Console, PC, Cloud) Fallout 76 (Console, PC, Cloud) Fallout: New Vegas (Console) Prey (Console, PC, Cloud) Rage 2 (Console, PC, Cloud) Wolfenstein: The New Order (Console, PC, Cloud) Wolfenstein: The Old Blood (Console, PC, Cloud) Wolfenstein: Youngblood (Console, PC, Cloud) Credit: https://www.videogameschronicle.com/news/xbox-games-pass-will-house-20-bethesda-games-from-tomorrow/
12 Mar 2021
Microsoft ประกาศ เกมใหม่ๆ ของ Bethesda อาจลงให้แค่ Xbox กับ PC เท่านั้น
ถือเป็นข่าวใหญ่มากๆ ช่วงปลายปี 2020 เมื่อ Microsoft ประกาศเข้าซื้อกิจการของ Zenimax Media บริษัทแม่จอง Bethesda ส่งผลให้เหล่าเกมเมอร์ตั้งคำถามว่า "เกมทั้งหมดของ Bethesda จะลงให้กับ Xbox เท่านั้นหรือเปล่า?" ซึ่งทางบริษัทได้ออกมายืนยันว่า "เกมไหนที่ประกาศลงให้กับเครื่องไหนบ้างไปแล้ว ก็จะไปลงให้ตามสัญญา" แต่สำหรับเกมที่จะออกหลังจากนี้มันเป็นอีกเรื่องครับ Phil Spencer ได้กล่าวว่า "ผมอยากให้เหล่าเกมเมอร์มีความคิดว่าเครื่อง Xbox ,PC และ Game Pass คือ แพลตฟอร์ม ที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับการเล่นเกมของ Bethesda ผมหมายถึงเกมใหม่ๆ ของพวกเขาบางเกม ที่จะลงให้กับ Xbox กับ PC เท่านั้น" เพื่อที่จะทำให้เหล่าเกมเมอร์รู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ คิดว่าน่าจะเป็นเกม IP ดังของ Bethesda ครับ ที่จะลงให้แค่ Xbox กับ PC ยกตัวอย่างเช่น The Elder Scrolls, Fallouts, และ DOOM อย่างไรก็ตามคุณ Spencer ใช้คำว่า "Some" หรือหมายถึงบางเกมเท่านั้น คิดว่าถ้ามีการตัดสินใจว่าเกมไหนควรลงให้กับ PS หรือ Switch ด้วย เกมนั้นก็น่าจะไปลงให้กับเครื่องทั้งสองเช่นกัน ล่าสุดทาง Bethesda ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่ บอกเล่าถึงประประวัติศาสตร์ และการเติบโตของบริษัทตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา พร้อมกับปิดท้ายด้วยรูปภาพของ Zenimax Media กับ Xbox ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นการบอกใบ้ถึงอะไรรึเปล่า ต้องติดตามกันต่อไปครับ Credit : https://www.vg247.com/2021/03/09/microsoft-bethesda-some-new-exclusive-titles/
10 Mar 2021
E3 เตรียมจัด Digital Event ทดแทนในปี 2021
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ในปี 2020 มีงานอีเวนต์เกี่ยวกับเกมมากมายต้องถูกยกเลิกไปทั้งที่ยังไม่ได้จัด เนื่องจากปัญหา COVID-19 หนึ่งในนั้นคือ E3 หนึ่งในงานอีเวนต์เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก แต่ในปี 2021 ดูเหมือนเราจะได้กลับมารับชมงานอีเวนต์นี้อีกครั้งในรูปแบบ Digital แทนครับ จากรายงานของ VGC ดูเหมือน ESA ได้ตัดสินใจที่จะจัดอีเวนต์ E3 ของพวกเขาแบบออนไลน์แทนในปีนี้ โดยได้มีการเริ่มส่งจดหมายเชิญ ไปให้กับเหล่าผู้พัฒนาจากที่ต่างๆ ทั่วโลกแล้ว น่าเสียดายที่ไม่มีข้อมูลเปิดเผยวันที่งานจะถูกจัดออกมาด้วย แต่ถ้าหากเป็นไปตามทุกๆ ปีที่ผ่านมา คิดว่าช่วงกลางปีนี้น่าจะได้รับชมพร้อมกันอย่างแน่นอนครับ ย้อนกลับไปหลายปีก่อนหน้านี้ The Elder Scrolls 6 ได้ทำการเปิดตัวครั้งแรกในงาน E3 ดังนั้นการกลับมาของงานในปีนี้ก็อาจนำข้อมูลของตัวเกมกลับมาบอกเราเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี Babylons Fall, Elden Ring, Final Fantasy 16, Battlefield 6, Dragon Age 4 และเกมอื่นๆ อีกมากมายที่เรายังไม่มีข่าวสารเกี่ยวกับเกมเพิ่มเติมเลย ไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นเกมเหล่านี้เพิ่มเติมในงานนี้ด้วยครับ Credit: GamingBolt
09 Feb 2021
The Elder Scrolls Online: Blackwood คือภาคก่อน Oblivion และมาเดือน 6 ปีนี้!
The Elder Scrolls เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกม RPG จากทาง Bethesda ที่ทำเนื้อเรื่องออกมาได้น่าสนใจ และมีความยาวเป็นอย่างมาก ซึ่งแม้แต่ตอนนี้ก็ยังมีการเสริมเติมแต่งเรื่องราวของจักรวาลเกมให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นในภาค The Elder Scrolls Online และเหมือนว่าแพตช์ต่อไปที่กำลังจะมี จะช่วยเสริมเนื้อเรื่องช่วงก่อนตัวเกมภาค 4 ครับ! The Elder Scrolls Online: Blackwood คือชื่อของ Expansion ตัวใหม่นี้ โดยเนื้อเรื่องของส่วนเสริมนี้จะอยู่ในช่วง 800 ปีก่อน The Elder Scrolls iV: Oblivion กล่าวถึงเรื่องราวของ Daedric Prince Mehrunes Dagon ผู้เป็นตัวร้ายหลักของตัวเกมภาค Oblivion มีกำหนดจะลงให้กับเครื่อง PC วันที่ 1 มิถุนายน 2021 นี้ และ 8 มิถุนายน 2021 สำหรับเครื่องคอนโซลครับ ทาง Bethesda ได้มีการปล่อย Trailer แรกของส่วนเสริมนี้ออกมาเมื่อวาน ซึ่งเชื่อว่าจะถูกใจแฟนเกมซีรีส์นี้อย่างแน่นอ นอกจากนี้ดูเหมือนส่วนเสริมใหม่นี้ยังมาพร้อมกับระบบ Companions ที่จะทำให้เราสามารถนำ NPC มาเป็นพวก เก็บเลเวลให้กับพวกเขาจนเก่งขึ้น และเอามาช่วยสู้ได้ รับชม Trailer ดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ The Elder Scrolls Online วางขายแล้ววันนี้บน PS4, Xbox One และ PC Credit: IGN 
28 Jan 2021
เนื้อเรื่องของ The Elder Scrolls 6 อาจเกิดขึ้นใน Hammerfell ตามข้าวลือจริง!
นับตั้งแต่ Bethesda ประกาศว่า The Elder Sctolls 6 จะมาแน่ๆ ใน E3 ปี 2018 ก็นับได้จะครบ 3 ปี แล้ว ซึ่งเรายังแทบไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับภาคนี้เลย ว่าเนื้อเรื่องจะเกิดขึ้นที่ไหนอะไรยังไง (โดยปกติชื่อของภาคจะเป็นชื่อของประเทศ และเหตุการณ์ต่างๆ ในเนื้อเรื่องจะเกิดขึ้นในประเทศนั้น) ซึ่งหลังจากปล่อยให้รออยู่นานในที่สุด ก็มีการปล่อรูปภาพที่น่าจะเป็นประเทศของเนื้อเรื่องในภาคนี้ครับ "Transcribe the past and map the future" คือข้อความที่มาพร้อมกับโพสต์ดังกล่าว พร้อมกับภาพดวงไฟสามดวงที่อยู่เหนือแผนที่ของ Skyrim โดยดวงไฟ 2 ดวงข้างบนคือสถานที่สำคัญใน Skyrim แต่ดวงไฟข้างล่างนั้นกลับต่างออกไป เพราะมันเป็นดวงเดียวที่อยู่นอกประเทศ! แถมตำแหน่งดังกล่าวยังเป็นอาณาเขตของ Hammerfell ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือมากมายว่า จะเป็นประเทศที่ถูกนำมาใช้เป็นเซตติ่งของเนื้อเรื่องในภาคใหม่ที่กำลังจะมา Transcribe the past and map the future. ? Heres to a Happy New Year!? pic.twitter.com/bL44CzLDIE — The Elder Scrolls (@ElderScrolls) December 31, 2020 แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการบอกว่า Hammerfell จะสถานที่ซึ่งใช้สำหรับดำเนินเนื้อเรื่องในภาค 6 แต่ก็ยยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเช่นกันว่าเนื้อเรื่องของภาคใหม่นี้จะเกิดขึ้นในประเทศดังกล่าวจริงๆ ก็คงได้แต่ต้องติดตามกันต่อไปว่าสิ่งที่ชาว Reddit เดากันอยู่ รวมถึงสิ่งที่เราคิดจะเป็นจริงหรือไม่ครับ Credit: GameInformer
05 Jan 2021
ได้เพื่อนใหม่!! Microsoft ประกาศเข้าซื้อบริษัทแม่ของ Bethesda Softworks
Microsoft ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ ZeniMax Media ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Bethesda Softworks และทางผู้สื่อข่าวของ Bloomberg ได้โพสต์ข้อมูลผ่าน Twitter ทางการของเขาว่ามูลค่าการซื้อขายครั้งนี้อยู่ที่ 7.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ สองแสนสามหมื่นห้าพันล้านบาท) ในการประกาศเรื่องดังกล่าว Phil Spencer ได้แสดงความตื่นเต้นออกมาอย่างชัดเจนที่ได้ร่วมงานกับ Bethesda ซึ่งสตูดิโอใหม่ที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Xbox Game Studio นั้นประกอบไปด้วยสตูดิโอระดับ AAA มากมาย ได้แก่ Bethesda Game Studio, id Software, MachineGames, Tango Gameworks และ Arkane Studios นั่นหมายความว่าแฟรนไชส์ยอดนิยมอย่าง The Elder Scrolls, Fallout, Starfield, Wolfenstein, DOOM, Prey, Dishonored, The Evil Within และ Quake ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft ในทันที ที่น่าตลกคือ GhostWire: Tokyo กับ Deathloop ที่ได้กลายเป็นของ Microsoft แล้วจะเป็นเกม Exclusive ชั่วคราวบนเครื่อง PlayStation 5 ในปี 2021 แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้ก็เรียกได้ว่า Microsoft ได้ขุมกำลังใหม่เข้าร่วมกับฝ่ายของตนแล้ว เมื่อรวมกับสตูดิโอที่มีอยู่แล้วอย่าง 343 Industries, Ninja Theory, Playground Games และสตูดิโออื่นๆ อีกมาก นี่ดูเหมือนว่า Microsoft กำลังเตรียมพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัวแล้ว! Credit: Gamingbolt
22 Sep 2020
The Elder Scrolls: Blades เปิดให้บริการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว
เมื่อย้อนกลับไปยังงาน E3 2018 ทาง Bethesda ได้เผยโฉมตัวอย่างเปิดตัว The Elder Scrolls VI เป็นครั้งแรก ซึ่งภายในวิดีโอจะมาพร้อมกับอาณาจักร Tamriel ที่่ค่อยๆ ปรากฏตัวท่ามกลางม่านหมอก ถือเป็นฉากที่สวยงามและทำให้แฟนคลับของ The Elder Scrolls ได้อิ่มเอมไปกับความตื่นเต้น ถึงแม้ว่าวันที่วางจำหน่ายของ The Elder Scrolls VI จะยังไม่มีการยืนยันออกมา แต่วันนี้ The Elder Scrolls: Blades ผลงานเกมใหม่จาก Bethesda Game Studios (ผู้สร้างสรรค์ Skyrim) ได้เปิดให้บริการบน iOS และ Android ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ววันนี้ ซึ่งจะเป็นตัวเกมภาคล่าสุดที่มาพร้อมสไตล์กราฟิกคล้ายคลึงกับ Morrowind และ Oblivion อีกทั้ง The Elder Scrolls: Blades จะมอบประสบการณ์แบบ The Elder Scrolls บนโทรศัพท์มือถือด้วย เนื้อหาของ The Elder Scrolls: Blades เกี่ยวข้องกับตัวละครของผู้เล่นที่เป็นหนึ่งในทหารกล้าของจักรพรรดิ์ ทว่าการล่มสลายของจักรพรรดิ์ก็ทำให้เราต้องระหกระเหินกลับมายังบ้านเกิด จนกระทั่งเมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าแผ่นดินอันเป็นที่รักได้ถูกทำลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การผจญภัยครั้งใหม่ของเราต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง ผู้เล่นจะมีหน้าที่ในการฟื้นฟูบ้านเมืองกลับสู่ความเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง ตลอดการเดินทางของเราจะพบกับดันเจี้ยน, ปราสาท, ป่า และ ถ้ำหลากหลายแห่งรอคอยให้เราเข้าไปสำรวจ นอกจากนั้นยังมีภารกิจการช่วยเหลือชาวเมืองที่ถูกกัก ต่อสู้กับราชินี Bloodfall Queen และทหารของ Necromancer ซึ่งพวกเราจะสามารถปรับแต่งรูปลักษณ์และเผ่าพันธุ์ของตน, ก่อสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ และพบปะกับเพื่อนต่างสายพันธุ์ ต่างปูมหลัง เช่นเดียวกับเมืองที่ขยับขยายมากขึ้น The Elder Scrolls: Blades ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การหมุนหน้าจออัตโนมัติ หากผู้เล่นต้องการมุมมองที่กว้างขึ้น ก็สามารถสนุกกับการต่อสู้ด้วยการกลับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนในแนวขวาง หรือจะเล่นเกมด้วยมือข้างเดียวในหน้าจอแบบ Portrait Mode ก็ได้เช่นกัน อีกทั้งการเลือกอุปกรณ์หรือทักษะต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้แบบ PVP ซึ่งผู้เล่นจะมีโอกาสในการเลือก Loadout สำหรับการต่อสู้ล่วงหน้า, เลือกใช้ฟังก์ชั่น Quick Equipment และปรับสกิลให้เข้ากับศัตรูที่กำลังเผชิญหน้า และเอาชนะพวกเขาให้ได้ ด้วยพลังกราฟิกระดับ AAA, การสำรวจดันเจี้ยนที่ไม่มีวันสิ้นสุด, เนื้อเรื่องพร้อมการหักมุม และการต่อสู้ในรูปแบบ PVP ทำให้ The Elder Scrolls: Blades เป็นประสบการณ์เกม RPG ที่สนุกและน่าตื่นเต้นสำหรับอุปกรณ์มือถือ และยังช่วยให้ The Elder Scrolls: Blades ได้รับรางวัลมาากมายไม่ว่าจะเป็น Google Play Best of 2019, Apple Best of 2019 Game Trend of the Year หลังจากการได้ให้บริการในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2019 แล้วคุณพร้อมจะออกเดินทางแล้วหรือยัง? ก่อนจากกัน อย่าลืมทำชุดคำถามเพื่อให้ผู้เล่นได้เตรียมความพร้อมก่อนการผจญภัยด้วย มาทดสอบทักษะกันในบททดสอบการเอาตัวรอดกันที่นี่ได้เลย LINK เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.playbladesasia.com ดาวน์โหลดเกมบน Android หรือ iOS: https://app.adjust.com/xz3yfzi แฟนเพจบน Facebook: https://www.facebook.com/TESBladesTH/ Twitter: https://twitter.com/TES_Blades_TH  
30 Jun 2020
คุณยายเกมเมอร์ เผยเครียดมากหลังอ่านคอมเมนต์ ที่บอกให้เธอควรไปเล่นเกมอื่น
Shirley Curry คือชื่อของคุณยายเกมเมอร์ ที่มักจะเล่นเกม The Elder Scrolls Skyrim และอัพลงคลิปลง Youtube ช่องของเธอ หรือที่รู้จักในชื่อ "Skyrim Grandma" แน่นอนว่าคุณยายไม่ใช้คนที่เล่นเกมเก่งอะไรมากมาย แต่เธอก็ดูมีความสุขไปกับการเล่นเกมในแบบของเธอ แถมยังเป็น Youtuber ที่อัพวิดีโอใหม่เร็วมากๆ อีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากนี้ดูเหมือนเราจะได้เห็นวิดีโอของเธอน้อยลงครับ! Shirley Curry ได้อัพโหลดวิดีโอใหม่ล่าสุด เปิดเผยความในใจว่าเธอรู้สึกเครียดมาแค่ไหน หลังจากอ่านบาง Comment ซึ่งเธอไม่ได้เปิดเผยออกมาตรงๆ ว่า Comment พวกนั้นเขียนว่าอะไร แต่ดูจากวิธีพูดของเธอแล้ว คิดว่าคงไม่พ้นความหมายประมาณว่า "คุณยายควรไปเล่นเกมอื่นจะดีกว่า" แน่นอนว่าตัวเธอรู้ดีว่าไม่ควรปล่อยให้ Comment พวกนั้นมาทำให้เครียด แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเธออยู่ดี อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเครียด คือเรื่องที่ช่องของเธอมีคนติดตามสูง 831,000 แต่ยอดคนดูของแต่ละคลิปกลับอยู่ที่ 5,000-9,000 เท่านั้น ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกว่าใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ ดังนั้นเธอจึงมีความรู้สึกว่า เธอควรถ่อยหลังสักก้าว อัพวิดีโอให้น้อยลง และหันมารักษาสุขภาพจิตใจของตัวเองจะดีกว่า ก็ได้แต่หวังว่าคุณยาย Shirley Curry จะมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นในเร็ววันครับ Credit: Kotaku สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
26 May 2020
The Elder Scrolls: Blades เตรียมเปิดลงทะเบียนล่วงหน้าในเอเชีย
ใครที่กำลังติดตามข่าวคราวอยู่ขอให้เตรียมตัวให้ดีเพราะว่า The Elder Scrolls: Blades มีกำหนดเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าในวันนี้ ซึ่งตัวเกมเป็นเกมแนว Action RPG บนมือถือจากค่ายเกม Bethesda Game Studios ผู้อยู่เบื้องหลังผลงาน Skyrim ที่ได้รับรางวัลมากมาย ออกเดินทางและต่อสู้ใน Tamriel ผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่งในหน้าจอโทรศัพท์ของคุณ The Elder Scrolls: Blades มอบประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อแฟนๆ ที่ชื่นชอบเกมแนวแฟนตาซีระดับ AAA ในฐานะที่เป็นเกม RPG มุมมอง First-person ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์พกพา ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเกมบนมือถือ แต่ The Elder Scrolls: Blades ก็มาพร้อมเทคโนโลยี Post-processing แบบล้ำสมัยที่เรนเดอร์สภาพแวดล้อมภายในเกมให้ออกมาดูสวยงามไม่ต่างกับเครื่องเล่นคอนโซลทีเดียว นอกจากนั้นแล้ว The Elder Scrolls: Blades ยังมีระบบการต่อสู้แบบมุมกล้องบุคคลที่หนึ่งสุดเจ๋งเพื่อต่อกรกับศัตรูมากมายตั้งแต่ยักษ์, กอบลิน, เหล่าผู้ใช้เวทมนตร์ หรือแม้กระทั่งมังกรในตำนาน เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่โลกของ The Elder Scrolls: Blades ผู้เล่นจะได้ดำดิ่งเข้าไปสู่ป่ามายา, ถ้ำ, โบราณสถาน และปราสาทสุดอลังการภายในอาณาจักร Tamriel เรียกได้ว่าเป็นเกมที่มีทั้งสภาพแวดล้อมสวยงาม, ระบบต่อสู้เรียลไทม์สุดเจ๋ง และการควบคุมที่ลื่นไหล สานต่อตำนานของเกมตระกูล The Elder Scrolls และกุมชัยชนะมาให้ได้ ซีรี่ส์ The Elder Scrolls ทั้งเกม The Elder Scrolls: Arena ไปจนกระทั่ง The Elder Scrolls: Skyrim ล้วนมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Tamriel ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือจักรพรรดิ์ที่ถูกจองจำ, สืบสวนคดีระทึกขวัญของจ้าวแห่ง Daggerfall, เปิดโปงแผนร้ายของ Dagoth Ur ไปจนกระทั่งช่วยจักรพรรดิ์ตามหาบรรพบุรุษ และช่วยเหลือมังกร Alduin... ต่อมาเมื่อเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้น หัวเมือง Imperial City ก็ตกอยู่ในสถานะระส่ำระส่ายอีกครั้ง ซึ่งผู้เล่นจะได้รับบทเป็นกองทัพทหาร Blades ที่ถูกฝ่าย White-Gold Concordat ตามทำลายล้างจนแตกพ่าย ครั้นเมื่อเรากลับมายังบ้านเกิดก็กลับพบว่าสถานที่แห่งนี้ถูกเผาจนมอดไหม้ และนี่ก็คือการเดินทางครั้งใหม่ของ The Elder Scrolls: Blades ที่กำลังจะเริ่มขึ้น The Elder Scrolls: Blades เปิดให้บริการครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาในปี 2019 ด้วยกราฟิกคุณภาพสูงและฉากการต่อสู้อันน่าอัศจรรย์ รวมไปถึงเนื้อหาสุดแฟนตาซี ก็ทำให้ตัวเกมได้รับรางวัล Google Play Best of 2019, Apple Best of 2019 Game Trend of the Year: Blockbusters Reborn, The Hollywood Music in Media Awards: Best Song/Score – Mobile Video Game พร้อมทั้งรางวัลจาก E3 อีกมากมาย สำหรับผู้เล่นในเอเชียจะมีกิจกรรมลงทะเบียนล่วงหน้าสุดพิเศษซึ่งจะแจกให้เมื่อมียอดผู้ลงทะเบียนครบ 200,000 คน นั่นก็คือภาพ Avatar เอ็กคลูซีฟที่แจกให้กับเกมเมอร์ในภูมิภาคนี้เท่านั้น ว่าแล้วก็อย่ารอช้ารีบติดตามแฟนเพจเพื่อรับฟังข้อมูลข่าวสาร หรืออัปเดตกันได้ทันที! เว็ปไซต์ทางการ: https://playbladesasia.com Android/iOS Pre-Order: https://app.adjust.com/xz3yfzi Facebook แฟนเพจ: https://www.facebook.com/TESBladesTH/ Twitter: https://twitter.com/TES_Blades_TH  
15 May 2020
The Elder Scrolls: Blades เปิดให้เล่นบนเครื่อง Nintendo Switch แล้ว!
หลังจากมีข่าวว่าต้องเลื่อนวันเปิดให้เข้าเล่นออกไป ในที่สุดเกม The Elder Scrolls: Blades ก็สามารถเล่นได้บนเครื่อง Nintendo Switch แล้วครับ! โดยผู้เล่นสามารถเข้าไปกดโหลดได้ฟรีเลยผ่าน Nintendo Switch eShop นอกจากนี้ยังมีการปล่อย Launch Trailer ออกมาอีกด้วย สามาารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! ตัวเกมยังรองรับระบบ Cross-Platform และ Cross-Progression อีกด้วย กล่าวคือถ้าหากผู้เล่นไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือที่สเปคสูงมากพอจะเล่นเกมนี้ได้อย่างลื่นไหล ก็สามารถลิงก์ Bethesda Account กับเครื่อง Nintendo Switch แล้วเปลี่ยนมาเล่นบน Console แทน แต่ยังสามารถทำกิจกรรม, ต่อสู้, พูดคุบกับเพื่อนๆ หรือคนในกิลที่เล่นผ่านมือถืออยู่ได้เหมือนเดิมครับ นอกจากนี้การเปิดให้เล่นบนเครื่อง Nintendo Switch นี้ ยังมาพร้อมกับเควสใหม่อีก 6 เควส, เนื้อเรื่องใหม่ที่จะพาผู้เล่นไปพบกับ Grand Champion, การจัดอันดับ PvP ถูกรีเซ็ตใหม่ โดยคนที่สามารถขึ้นไปอันดับสูงๆ จะได้รับของรางวัลเพิ่มเติมด้วย ในส่วนของผู้เล่น Early Access จะได้รับของตกแต่งสุดพิเศษเมื่อทำการ Log in เข้าเกมครับ Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
15 May 2020
The Elder Scrolls: Blades จะเปิดให้เล่นบน Nintendo Switch ปลายสัปดาห์นี้!
The Elder Scrolls Blade นั้นเป็นเกมมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เปิดให้เล่นฟรีบนมือถืออยู่ในตอนนี้ ตัวเกมดังกล่าวมีกำหนดจะลงให้กับเครื่อง Nitnedo Switch ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งสุดท้ายตัวเกมก็ยังคงไม่ได้เปิดให้เล่นได้บนเครื่อง Switch ในวันดังกล่าว แต่ล่าสุดก็ได้มีการประกาศออกมาแล้วว่าตัวเกมน่าจะเปิดให้เล่นได้ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2020 นี้แทนครับ ซึ่งเมื่อตัวเกมเปิดให้สามารถเข้าไปเล่นได้อย่างเป็นทางการ ผู้เล่นสามารถที่จะจ่ายเงิน $14.99 เพื่อซื้อ "Quick-Start Edition" ของตัวเกมได้ด้วย โดยแพ็คเกจดังกล่าวจะมอบ ชุด,อาวุธ, วัตถุดิบในการสร้างเมือง, ม้วนคัมภีร์เวทย์หายาก, Gems 2,000 เม็ด และเงินอีก 30,000 เพื่อให้สามารถเล่นเกมนี้ในช่วงแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ตัวเกมเวอร์ชั่นที่จะลงให้กับเครื่อง Switch ยังได้เพิ่มระบบ Motion Control Support, Cross-Platform PvP Matches เข้ามาอีกด้วย ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องที่ว่าจะหาห้องนาน หรือไม่มีเพื่อนเล่นด้วยไปได้เลยครับ The Elder Scrolls: Blades เปิดให้สามารถเล่นได้ฟรีแล้ววันนี้บน iOS กับ Android ตัวเกมกำลังจะเล่นได้บนเครื่อง Nintendo Switch ในช่วงปลายอาทิตย์นี้ครับ Credit: NintendoLife สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
13 May 2020
ผู้พัฒนาเผย "ข้อมูลของ The Elder Scrolls VI จะปล่อยได้ในอีก 1 ปีต่อจากนี้"
The Elder Scrolls VI คือภาคต่อของซีรีส์เกม RPG ที่ เหล่าแฟนๆ รอคอยมาตลอด ตัวเกมถูกประกาศเปิดตัวครั้งแรกในงาน E3 2018 แต่จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบข่าวสารอะไรเกี่ยวกับเกมนี้เพิ่มเติมเลย แฟนๆ ก็ได้แต่เฝ้าถามว่า "เมื่อไหร่เราถึงจะได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาคต่อของเกม RPG นี้สักที" โดยจากข้อมูลล่าสุด กว่าเราจะได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้มากขึ้น คงจะต้องเป็นปี 2021 เลยครับ! บน Twitter มีคนโพสต์ข้อความถาม Pete Hines ที่เป็นรองประธานฝ่ายการตลาดของ Bethesda ว่า "เมื่อไหร่เราจะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเกม The Elder Scrolls 6?" โดยคุณ Pete Hines ได้ตอบคำถามนั้นว่า "นั้นคงจะเป็นหลังจากที่เกม Starfield วางจำหน่าย ซึ่งพวกคุณยังไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเกมดังกล่าวเลย ดังนั้นถ้าพวกคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้จากผมในตอนนี้ หรืออีก 1 ปี ต่อจากนี้ มันคงเป็นไปไม่ได้" จากข้อความนี้ทำให้มีความเป็นไปที่เราอาจจะได้ทราบข้อมูลของเกม The Elder Scrolls 6 ในช่วงนี้ของปี 2021 ครับ https://twitter.com/DCDeacon/status/1259619185879142402 https://twitter.com/DCDeacon/status/1259667482496958468?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1259667482496958468&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.pcgamer.com%2Fbethesda-says-it-will-be-years-from-now-before-we-get-elder-scrolls-6-details%2F Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
12 May 2020
สั้นยาวแตกต่างกัน ‘จำนวนเวลา’ นั้นสำคัญหรือไม่ในชิ้นงานวิดีโอเกม
‘เมื่อคุณนั่งอยู่กับสาวสวยสองชั่วโมง มันดูผ่านไปรวดเร็วเพียงไม่กี่นาที แต่เมื่อนั่งบนเตาไฟไม่กี่นาที มันดูยาวนานราวชั่วโมง’ ประโยคนี้ คือคำอธิบายสุดคลาสสิคของทฤษฏีสัมพัทภาพ (Theory of Relativity) อันเป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญของทฤษฏีฟิสิกส์ดาราศาสตร์ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สุดยอดนักวิทยาศาสตร์แห่งศตวรรษที่ 20 ที่ใช้บรรยายเรื่องยากให้สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพได้ภายในประโยคเดียว (ตามวิสัยที่แกเป็นนักวิทยาศาสตร์สุดเฟื่องและขึ้นชื่อในเรื่องอารมณ์ขันอันรุ่มรวยที่ช่วยให้โลกวิทยาศาสตร์ไม่เป็นยาขมไหม้ในลำไส้ไปเสียก่อน...) แน่นอนว่าผู้เขียนไม่ได้จะพาคุณผู้อ่านไปทำความเข้าใจในเรื่องของฟิสิกส์ดาราศาสตร์ (เพราะมันคงกินโควต้าหน้าบทความจนเกินไป รวมถึงไม่มีความเข้าใจในเชิงลึกด้วยสติปัญญาที่แม้แต่ตารางธาตุก็ยังจำไม่ได้...) แต่กำลังจะเกริ่นนำถึงสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงเวลาที่ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว ใช่แล้ว มันไม่ใช่สิ่งอื่นใด หากแต่เป็น ‘วิดีโอเกม’ ที่เรารักและคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี เหล่านี้ เป็นประสบการณ์ที่เราต่างพบเจอกับสภาวะเวลาไหลผ่านกันมาแล้วนักต่อนัก ไม่ว่าจะปรากฏการณ์ ‘ขออีกตา’ ในซีรีส์ Civilization ไปจนถึงการทุ่มเทเวลาอย่างสมบุกสมบันในเกมสวมบทบาทอย่าง The Elder Scrolls ในแต่ละภาค (ที่อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 40 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำในการจบหนึ่งรอบการเล่น ไม่นับการดัดแปลงด้วย Mod และเนื้อหาเสริมอีกจำนวนมหาศาลให้เลือกเล่น…) นั่นคือคุณสมบัติของวิดีโอเกมที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะต้องเคยผ่านมันมาบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อย กระนั้นแล้ว ภายใต้สภาวะการไหลผ่านของเวลาที่รวดเร็วโดยไม่รู้ตัวเมื่อพาตนเองจมอยู่กับความสนุกของชิ้นงานเกม มันได้กลายมาเป็นคำถามสำคัญว่า  แท้จริงแล้ว ‘ความยาว’ ที่เกมหนึ่งๆ ควรจะมีนั้น สำคัญมากน้อยแค่ไหนในโลกยุคปัจจุบัน? แน่ล่ะ เราอาจจะอนุมานเอาได้ว่า ยิ่งมากก็ยิ่งดี เมื่อพิจารณาในแง่ของความคุ้มค่าของชิ้นงานต่อราคาที่ผู้เล่นจะต้องจ่ายเพื่อให้ได้ความสนุกที่ว่า (ที่ราคาเกมออกใหม่ก็มักอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยในปัจจุบัน…) แต่มันก็ยังคงมีความลักลั่นอยู่ ภายใต้การหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความยาวของเกม กับประสบการณ์ที่ผู้เล่นจะได้รับในชิ้นงานนั้นๆ (เพราะวิดีโอเกม คือสื่อความบันเทิงชนิดหนึ่ง การที่เราจะถือเรื่องจำนวนเป็นประกาศิตราวกับว่าเป็นแพ็คม้วนกระดาษชำระ ห่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า หรือยกโหลน้ำยาปรับผ้านุ่มก็คงจะเป็นการเทียบที่ผิดฝาผิดตัวไปสักนิด…) เช่นนั้นแล้ว ความลักลั่นของคำถามเหล่านี้จะไปจบลงที่จุดไหน? และหนทางแบบใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับชิ้นงานเกม? ผู้เขียนเองก็มีประสบการณ์การเล่นเกมมาไม่น้อย เคยผ่านเกมที่เล่นอย่างยาวนานซ้ำไปซ้ำมาด้วยจำนวนเวลานับร้อยชั่วโมง หรือประสบการณ์กับเกมอินดี้สัญชาติเบลเยียม ที่มีจำนวนเวลาการเล่นสั้นที่สุดเพียง 5 นาทีจบในสนนราคา 99 บาทไทย (และเป็นสิ่งที่จดจำลืมไม่ลงเพราะไม่เคยเจอชิ้นงานแบบ Experimental เช่นนี้มาก่อนในชีวิต เป็นความเหวอที่ฝังใจไปอีกนาน…) และได้ข้อสรุปกับตนเองเอาไว้อย่างหนึ่งว่า บางที จำนวนเวลาอาจจะไม่ได้สำคัญมากนัก ตราบเท่าที่มันยังมี ‘คุณภาพ’ ของการใช้เวลานั้นๆ ได้อย่างครบถ้วน เพราะไม่ว่าจะเวลานับพันกว่าชั่วโมงในรอบเจ็ดปีที่ผู้เขียนทุ่มเทลงไปในเกมออนไลน์อย่าง Final Fantasy XIV Online หรือเวลาไปกว่าสองร้อยชั่วโมงกับ XCOM2 ผ่านการเล่นซ้ำห้ารอบ ทั้งหมด ถ้าเราได้รับความสนุกจากมัน ถ้ามันเคารพเวลาที่เรามีให้ และเป็นความคุ้มค่าที่ผ่านการ Crafted เป็นอย่างดี และเป็นสิ่งที่ผู้สร้างได้พิจารณาแล้วว่า เป็นจำนวนเวลาที่เหมาะสมสำหรับประสบการณ์การเล่นนั้นๆ เรื่องจำนวนเวลาหรือความยาวเกมอาจจะไม่ใช่สาระสำคัญที่ต้องเอามาใส่ใจ กระนั้นแล้ว ไม่ใช่ทุกชิ้นงานจะสามารถเข้าถึงสมดุลระหว่างปริมาณและคุณภาพได้อย่างเหมาะสม หลายเกมเลยทีเดียว ที่โฆษณาตนเองเอาไว้ว่ามีจำนวนชั่วโมงการเล่นที่ยาวนานนับร้อยชั่วโมง ก็เป็นเพียงกิจกรรม Sandbox ซ้ำๆ หรือภารกิจที่น่าเบื่อหน่ายที่ถูกวนเวียนมาให้ทำอย่างไม่รู้จบ มีส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องที่ถูกใส่เข้ามาอย่างมากมายเพียงเพื่อจะได้เอามาทบเป็นจำนวนชั่วโมงที่ยาวนาน ให้ผู้ซื้อรู้สึกถึงความคุ้มค่าต่อราคาที่ต้องจ่ายไปมากที่สุด ที่กลับกลายมาเป็นความทรมานและไม่หลงเหลือสิ่งใดให้จดจำ หรืออยากจะกลับไปเล่นมันซ้ำอีกครั้ง (หรือที่สำนวนภาษาอังกฤษใช้ว่า wear out of ones welcome หรือนานเกินกว่าความจำเป็น...) แน่ล่ะ เรื่องของสนนราคาเองก็เป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาในความคุ้มค่าที่ผู้เล่นจะได้รับจากการจับจ่ายซื้อหามันมาเล่น (ที่นับวันจะยิ่งสูงขึ้นตามขนาดของอุตสาหกรรมที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด) แต่ก็อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ถ้าเกมนั้นมีปริมาณความยาว เพื่อสักแต่ว่าจะยาว แต่เต็มไปด้วยคุณภาพที่ย่ำแย่ ปัญหาทางเทคนิคอย่างมากมาย หรือมีเนื้อหาที่น่าเบื่อหน่ายไม่ชวนให้จดจำ การจะทุ่มเทเล่นมันคงไม่ต่างอะไรกับการบำเพ็ญเพียรทุกกรกิริยาที่ไม่น่าจะพาเราไปถึงการรู้แจ้งอะไรมากมายนัก และเราก็คงรู้สึกเหมือนเอาเงินไปโปรยทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์เสียมากกว่า (และในทางกลับกัน เกมที่สั้นจนเกินงามในสนนราคาที่ไม่เหมาะสมก็ถือเป็นจำเลยในคดีนี้ได้อย่างไม่ต่างกัน...) อนึ่ง ผู้เขียนคงไม่ขอไปชี้ขาดตัดสินในเรื่องของการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพของพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้อ่านแต่ละท่านว่าจะเลือกใช้เวลาไปกับชิ้นงานใด หรือเกมไหน ที่มีความคุ้มค่าในจำนวนเวลาที่มันมอบให้ (เพราะมันเป็นเรื่องที่อัตวิสัยความคิดใครความคิดมันโดยธรรมชาติอยู่แล้ว…) แต่สำหรับผู้สร้างแล้ว พวกเขาทั้งหลายต่างก็มุ่งหมายใจที่จะมอบประสบการณ์อันมีความหมาย ความสนุกสนานที่พร้อมจะมอบให้ และจำนวนเวลา ก็เป็นตัวแปรผันตรงที่ทีมสร้างได้พิจารณาเอาไว้แล้วว่า มัน ‘อาจจะ’ เหมาะสมภายใต้เงื่อนไขและโจทย์ดังกล่าว ซึ่งในบั้นปลายแล้ว ก็ต้องเป็นผู้เล่น ที่จะเป็นคนตัดสินว่า ความยาวที่ชิ้นงานเกมหนึ่งๆ ได้มอบให้ มีความสนุกคุ้มค่ามากแค่ไหน ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมเสริมอย่างราคาและคุณภาพของเกมการเล่น ในตอนนี้ ผู้เขียนพึ่งจบภารกิจของ Persona 5 Royal ด้วยจำนวนเวลา 140 ชั่วโมงไปหมาดๆ ซึ่งแม้ว่ามันจะยาว แต่ก็เป็นความยาวที่คุ้มค่า เป็นงานสร้างที่ผ่านการคิดคัดสรรค์เป็นอย่างดี เป็นงานระดับ ‘Crafted’ ชั้นเยี่ยมที่จะติดตรึงฝังทนในความทรงจำไปอีกนาน และวาดหวังเอาไว้ว่า Final Fantasy VII Remake ที่พึ่งได้แผ่นมา จะมอบประสบการณ์ที่ดีไม่แตกต่างกัน รวมทั้ง Resident Evil 3 Remake ที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นกับตารู้กับมือ ว่ามันจะคุ้มค่าแม้จะถูกครหาเรื่องเวลาการเล่นมากน้อยแค่ไหน เพราะเช่นเดียวกับทฤษฏีสัมพัทภาพของไอน์สไตน์ เราต่างพึงพอใจที่จะใช้เวลาที่มีคุณภาพไปกับสิ่งที่ดี ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม และให้ความบันเทิงเริงใจ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใด นั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการเล่นวิดีโอเกม เพราะ ‘ความสนุก’ ก็ยังเป็นสิ่งที่ใช้ชี้ขาดได้ในบั้นปลายท้ายสุด ที่มันควรจะทำให้เรารู้สึกราวกับนั่งคุยกับสาวสวยที่ช่วยให้เวลาไหลผ่านอย่างรวดเร็ว มากกว่าต้องไปนั่งบนเตาไฟอย่างไม่รู้ว่าความทรมานที่แม้เพียงสักนาทีก็ถือว่าเกินกว่าจะทนได้จะจบลงเมื่อใด...  
13 Apr 2020
The Elder Scrolls Online: Greymoor ประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายแล้ว!
ในช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาดอย่างหนักอยู่ในตอนนี้ มันเป็นเรื่องยากมากเลย ที่จะทำงานที่บ้านแล้วยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่เหมือนกับอยู่ที่ออฟฟิศ เพราะยังไงการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีพร้อมต่อการทำงาน มันเป็นเรื่องที่ดีกว่าอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ใช้เรื่องแปลกเลยที่เราได้เห็นเกมมากมาย ต้องถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปในช่วงนี้ และในวันนี้ Elder Scrolls Online: Greymoor ก็เป็นอีกหนึ่งเกม ที่ต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปครับ! ได้มีการประกาศออกมาผ่านเว็บไซต์ของ The Elder Scrolls Online เองเลยว่า "เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ทีมพัฒนาจำเป็นต้องทำงานจากที่บ้านมาตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2020 ซึ่งมันทำให้การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบากมาก เลยทำให้ Elder Scrolls Online: Greymoor อาจต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอีก 1 สัปดาห์" แรกเริ่มเดิมทีตัว Expansion นี้ยังไม่มีกำหนดวันวางจำหน่ายชัดเจน แต่จะมาในเดือน มิถุนายน แน่ๆ การเลื่อนออกไป 1 สัปดาห์ จึงมีความเป็นไปได้ที่ตัวเกมจะวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือน กรกฎาคม แทนครับ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตัวเกมจะถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปถึง 1 สัปดาห์ แต่ตัว Public Test Server ของเกมยังคงจะมาในวันที่ 20 เมษายน 2020 เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ตัวเกมได้มีปัญหาหนึ่งอย่าง เพราะในประเทศฝรั่งเศสอยู่ในสภาวะ Lock Down ทำให้ทีมงานไม่สามารถไปอัดเสียงของตัวละครต่างๆ ในเกมได้ ดังนั้นในช่วงที่เกมวางจำหน่ายจะมีแค่เสียงพากย์ภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ยังคงมี Subtitle และ Text ที่เป็นภาษาฝรั่งเศสอยู่เหมือนเดิม The Elder Scrolls Online วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
09 Apr 2020
The Elder Scrolls Online เปิดให้เล่นฟรีเป็นเวลา 5 วันเต็ม
The Elder Scrolls Online เกมนี้หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จักเพราะว่าเป็นการนำเอาเกมขวัญใจเกมเมอร์สาย RPG อย่าง The Elder Scrolls มาทำเป็นรูปแบบออนไลน์ให้ผู้เล่นได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน สำหรับใครที่กำลังหาโอกาสที่จะลองเล่นเกมนี้ ในตอนนี้ก็ถึงเวลาอันสมควร The Elder Scrolls Online ประกาศเปิดให้ทดลองเล่นฟรี 5 วันเต็ม และได้ลดราคาตัวเกมลงเหลือเพียง 264 บาทสำหรับตัวเกมเวอร์ชัน Standard Edition ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่อยากจะลองเล่นเกมออนไลน์จากซีรีส์นี้แต่หาโอกาสในการลองเล่นเกมนี้ไม่ได้เสียที นอกจากนี้หากใครคิดว่าเหงาก็ขอให้คิดใหม่เพราะว่าเกมนี้มียอดผู้เล่นเฉลี่ยเดือนละ 14,691.8 คนเลยที่เดียวหากอ้างอิงจาก Steam Chart โดยตัวเกมจะทำการลดราคาตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 เมษายน 2020 Source : store.steampowered.com 
01 Apr 2020
The Elder Scrolls Online: Greymoor เปิดให้เล่นฟรีวันที่ 1 - 13 เม.ย นี้!
The Elder Scrolls Online เป็นอีกหนึ่งเกม MMORPG ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งก็ผ่านมาเกือบจะ 6 ปีแล้ว ตั้งแต่ตัวเกมวางจำหน่ายครั้งแรก แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังมีผู้ให้ความสนใจ และเล่นเกมนี้อยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยว่าใกล้จะครบรอบ 6 ปีตั้งแต่ตัวเกมวางจำหน่าย ทั้งยังใกล้วันวางจำหน่าย Greymoor ที่เป็น Expansion ใหม่ของเกมแล้ว ผู้พัฒนาเลยใจดีเปิดทั้งตัวเกม และ Prologue ของ Greymoor ให้เล่นฟรีเป็นเวลา 2 อาทิตย์ครับ! โดยอีเวนต์เปิดให้เล่นฟรีในครั้งนี้ ถูกประกาศออกมาผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ Elder Scrolls Online เองเลย ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าการเปิดให้เข้าไปเล่นฟรีทั้งตัวเกม และ Prologue ของ Greymoor นั้น เป็นโอกาสอันดีที่จะเพิ่มผู้เล่นใหม่ในเกม เพราะตัว Greymoor Expansion นั้นจะมีเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือดินแดน Skyrim จึงมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถดึงดูดเหล่าคนที่ชอบเล่นเกม The Elder Scrolls V: Skyrim ได้ครับ The Elder Scrolls Online วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
01 Apr 2020
งานนี้ต้องมีเพื่อนลุย! กับเกม MMORPG น่าลองแห่งปี 2020
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า โลกแห่งเกมออนไลน์ขนาดใหญ่หรือ ‘MMORPG’ นั้น สนุกสนานและน่าลิ้มลองแค่ไหน และเติบโตต่อยอดจากจุดเริ่มต้นของมันในยุกแรกเริ่มมาไกลเพียงใด และเมื่อวิทยาการทางด้านการติดต่อสื่อสารพัฒนาให้มีความสะดวกมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ผู้พัฒนาหลายเจ้าตบเท้ากันเข้ามาสู่ตลาดแห่งเกมออนไลน์อย่างคึกคัก แต่ก็เช่นเดียวกับธรรมชาติของมัน ที่การเล่นเกม MMORPG เกมหนึ่งจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันเป็นอย่างมาก (เพราะการแตะแค่ผิวเผินนั้นเป็นเพียงส่วนหน้าของเค้กแสนอร่อยชิ้นนี้เท่านั้น…) เราก็เลยขออาสาแนะนำ 5 เกม MMORPG ฝั่งตะวันตกที่ยังคงน่าเล่นน่าลิ้มลองในปี 2020 ไว้เป็นตัวเลือกให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากันดูสักครั้ง World of Warcraft ปีที่วางจำหน่าย : พฤศจิกายน 2004 ผู้พัฒนา : Blizzard Entertainment ยังคงยืนหนึ่งในสายเกม MMORPG ที่ยาวนานมากว่า 15 ปี ผ่าน Expansion มาแล้วถึง 7 ตัว และภาคเสริมตัวล่าสุดอย่าง Shadowlands ก็กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้ ด้วยยอดผู้เล่นหลักสิบล้านคน และคอนเทนต์ที่ผ่านการสะสมมาอย่างมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในจักรวาลของ Warcraft ซีรีส์คู่บุญของค่าย ที่จะรับประกันความสนุกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าสิงห์สนาม หรือหน้าใหม่ที่อยากจะเข้ามาลิ้มลองรสชาติแห่ง MMORPG ระดับตำนานเกมนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบการสวมบทบาทแบบ PvE หรือปะทะในสนามรบแบบ PvP เกมนี้มีทุกรูปแบบให้คุณได้เล่นอย่างที่ใจปรารถนา จุดเด่น : คอนเทนต์มากมายมหาศาลให้เล่นกันไม่หวาดไม่ไหว, ระบบ User Interface ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด, เนื้อหาที่ครอบคลุมยาวนานมากว่า 15 ปีและไม่มีท่าทีว่าจะจบไปได้ง่ายๆ, ตัวเกมง่ายต่อการเข้าถึงและเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่างมาก ข้อสังเกต : แม้จะรั้งตำแหน่งแถวหน้าของเกมแนว MMORPG แต่ยอดผู้เล่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและการปรับของกราฟิกแบบการ์ตูนนั้นก็เป็นสัญญาณความเก่าอายุที่ไม่สู้ดีสักเท่าไร ภายใต้การแข่งขันที่โรมรันดุเดือดในสนามออนไลน์ ประกอบกับชื่อเสียของ Blizzard Entertainment ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งผลักให้ผู้เล่นหน้าเก่าออกห่างมันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Final Fantasy 14 ปีที่วางจำหน่าย : 2009 (Legacy) , 2013 (A Realm Reborn) ผู้พัฒนา : Square-Enix อดีตผลงานเกม MMORPG สุดอัปยศในประวัติศาสตร์ สู่การผงาดและก้าวมาเป็นเพชรน้ำเอกแหล่งรายได้หลักของบริษัท Square-Enix อีกหนึ่งผลงานจากญี่ปุ่นคุณภาพระดับสากลที่ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุก Expansion ที่ผ่านไป จนมาถึงตัวล่าสุด Shadowbringers ที่คว้าคะแนนเฉลี่ยที่ 91 จาก Metacritics สูงที่สุดเท่าที่เคยได้มา บวกกับยอดผู้เล่นที่ 16 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการ Cross-Platform ระหว่างพีซี แมค และ PS4 ก็น่าจะรับประกันอนาคตที่สดใสของโลกแฟนตาซีแห่งนี้ได้ค่อนข้างแน่ จุดเด่น : เนื้อหาเข้มข้นลุ่มลึก ต่อยอดเชื่อมโยงกันทั้งเนื้อหาหลักและรอง, หนึ่งตัวละครเล่นได้หลายคลาสสลับสับเปลี่ยนได้ตามที่ชอบใจ, ระบบ Crafting ที่เล่นได้สนุก, กราฟิกสวยงามสมยุค, เพลงประกอบสุดเฉียบ, หนึ่ง Account เล่นข้ามแพลทฟอร์มได้ ข้อสังเกต : เกมนี้เน้นความสำคัญของเนื้อเรื่องเป็นแก่นหลัก นั่นหมายความว่าสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ คุณจะต้องเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ A Realm Reborn ไล่ไปอีกสาม Expansion ซึ่งเป็นภาระที่หนักหนาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าทาง SQEN จะวางจำหน่ายไอเทมสำหรับ skip เนื้อหา และสัญญาว่าจะปรับปรุงความกระชับของเนื้อเรื่องช่วงต้นในแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะออกก็ตาม แต่เราก็อยากให้คุณได้ลองเล่นมันด้วยตนเองอยู่ดีเพื่อสัมผัสความเข้มข้นของของแต่ละ Expansion และเรียนรู้การเล่นในแต่ละคลาสไปในตัว Star Wars: The Old Republic ปีที่วางจำหน่าย : 20 ธันวาคม 2011 ผู้พัฒนา : Bioware EA อีกหนึ่งผลงานเกมออนไลน์ที่แม้จะเปิดตัวไม่สวยนักในช่วงแรกที่วางจำหน่าย (ที่เป็นแบบจ่ายรายเดือน Subscription-Based) แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นแบบ Free-to-Play แล้ว เกมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ นั่นเพราะมันคือส่วนผสมของเกม MMORPG ชั้นดีด้วยคลาสตัวละครที่หลากหลายพร้อมเรื่องราวและ NPC เฉพาะตัวให้การเล่นแต่ละรอบไม่ซ้ำกัน และเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ยุค Old Republic ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นในแต่ละภาค โดยเฉพาะกับภาคเสริมอย่าง Knights of the Eternal Throne และ Onslaught ที่ขนเอาตัวละครสุดคลาสสิคของเกม Knights of the Old Republic มาร่วมด้วย ถ้าได้ลองสักครั้ง เป็นต้องติดใจ จุดเด่น : คลาสตัวละครหลากหลายพร้อมเนื้อหาเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกัน, ระบบ Free-to-Play ที่ไม่ Pay-to-Win ที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ, เนื้อเรื่องเข้มข้น จับอารมณ์และแก่นของความเป็น Star Wars ได้อย่างเต็มเปี่ยม ข้อสังเกต : ตัวเกมที่ค่อนข้างเข้าถึงยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ และข้อจำกัดสำหรับผู้เล่นสายฟรีที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่การสมัครเป็นสมาชิกจ่ายครั้งเดียว สามารถให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาได้ในอีกระดับแม้จะไม่ได้จ่ายต่อแล้วก็ตาม The Elder Scrolls Online (ESO) ปีที่วางจำหน่าย : 4 เมษายน 2014 ผู้พัฒนา : Zenimax Online Studios (จัดจำหน่ายโดย Bethesda Softworks) อีกหนึ่งเกม MMORPG แบบ Free-to-Play ชั้นเยี่ยมที่เราอยากจะแนะนำ ด้วยโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่ง Tamriel และการเล่นที่อาศัยทักษะการมีส่วนร่วมจนเกือบจะกลายเป็นเกมแอ็คชัน ผสมเข้ากับระบบสเกลเลเวลที่ทำให้ผู้เล่นสามารถไปได้ในทุกพื้นที่โดยไม่จำกัดผ่านการปรับปรุงเป็น ESO: Tamriel Unlimited เพิ่มความอิสระเป็นอย่างสูง บวกความลื่นไหลของคลาสและระบบการ Crafting ที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามอง ไม่มีครั้งไหนที่ตำนานแห่งโลกแฟนตาซีของ Bethesda อายุกว่าสองทศวรรษจะโลดแล่นได้ราวกับมีชีวิตได้เท่านี้อีกแล้ว จุดเด่น: คลาสตัวละครลื่นไหล รองรับการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ, โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลให้ออกสำรวจและค้นหา, ระบบ Crafting สุดสนุก, การเล่นแบบกึ่งเกมแอ็คชันรวดเร็วและท้าทาย, ระบบ Free-to-Play ที่ออกแบบมาดี ข้อสังเกต : การซื้อ The Elder Scrolls Online ผ่านระบบ Steam นั้นมีหลายเวอร์ชันอยู่มาก มีตั้งแต่ตัวหลักอย่างเดียวจนถึงแพ็คเกจที่รวมภาคเสริมล่าสุดอย่าง Greymoor ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาจก่อให้เกิดความสับสน แต่สำหรับผู้เล่นที่ยอมจ่ายรายเดือน จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงทุกคอนเทนต์ได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลหรือซื้อเพิ่มแต่อย่างใด (หรือจะใช้หน่วยเงินในเกมเพื่อปลดล็อคภาคเสริมก็ได้) EVE Online ปีที่วางจำหน่าย : 6 พฤศภาคม 2003 ผู้พัฒนา : CCP Games อีกหนึ่งตำนานแห่งเกม MMORPG สาย Sandbox สำหรับผู้เล่นระดับฮาร์ดคอร์ที่ยืนยงคงกระพันมาถึง 16 ปีเต็ม ผลงานจากทีมพัฒนาสัญชาติไอซ์แลนด์เกมนี้ คือนิยามแห่งความเป็นอิสระแห่งจักรวาลที่แท้จริง ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยผู้เล่น ตั้งแต่กิจกรรม การค้าขาย การแลกเปลี่ยนทรัพยากร ไปจนถึงการก่อสงครามตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงสเกลใหญ่เศษยานกระจายในห้วงอวกาศ และสำหรับใครที่อยากลอง ตัวเกมยังเพิ่มเวอร์ชัน Free-to-Play เข้ามาในปี 2016 แต่ลดฟีเจอร์บางอย่างลงให้พอชิมลางกันก่อนตัดสินใจ จุดเด่น : ห้วงอวกาศอิสระอย่างไร้ขีดจำกัด, มีกิจกรรมให้ทำอยู่มากมาย, กราฟิกสวยงามล้ำหน้าเกม MMORPG ในสายเดียวกัน, การปรับแต่งยานที่ลงลึกถึงรายละเอียดทุกสเกล, มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากทีมสร้าง ข้อสังเกต : ที่กล่าวว่าเกมนี้คือชิ้นงานสำหรับฮาร์ดคอร์ไม่ใช่คำขู่ เพราะที่นี่คือ ‘แดนเถื่อน’ ขนานแท้ ด้วยระบบเกมที่รันโดยผู้เล่นเป็นตัวขับเคลื่อนทุกกิจกรรม ทำให้พื้นที่นอกโซนปลอดภัยช่วงเริ่มต้นกลายเป็นอาณาเขตมิคสัญญีที่หน้าใหม่อาจโดนระเบิดยานตายคาอวกาศเอาได้ง่ายๆ หรือการซื้อขายที่มีการ Scam ไปจนถึงสงครามจารชนทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่คิดมูลค่าความเสียหายเป็นหน่วยเงินจริงๆ สูงจนน่าตกใจ นี่จึงไม่ใช่เกมที่เหมาะไว้เล่นสำหรับการผ่อนคลาย แต่ก็เข้มข้นและน่าหาโอกาสลองดูสักครั้ง โลกแห่ง MMORPG ไม่ว่าจะชิ้นงานใด ต่างมีจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ในตัวของมันเอง เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำหรับตัวเลือกที่เรานำมาเสนอทั้ง 5 ชิ้นงานนี้ จะกระตุ้นความสนใจของคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย และถ้าใครมีเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนบอกเล่าให้เราฟังกันบ้าง บางที มันอาจจะกลายเป็นโลกใบใหม่ของใครต่อใครหลายคนโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้~
03 Mar 2020
นักวิเคราะห์คาด !! The Elder Scrolls VI อาจจะออกในปีนี้
หลังจากการเปิดตัวของเกม The Elder Scrolls VI ไปเมื่องาน E3 2018 ว่าตัวเกมกำลังพัฒนาอยู่ หลายๆ คนก็คาดว่าตัวเกมนี้อาจจะวางจำหน่ายใน Console เจนใหม่ก็เป็นได้ ซึ่งล่าสุดได้มีนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก Wedbush  อย่างคุณ Michael Pachter ได้ออกมาวิเคราะห์ว่าทาง Bethesda ผู้พัฒนาอาจจะกำหนดวันวางจำหน่ายเกม The Elder Scrolls 6 เร็วขึ้น คือในปี 2019 นี้ เพื่อกอบกู้ตัวเอง เนื่องจากการพังไม่เป็นท่าของเกม Fallout 76 "ความล้มเหลวของ Fallout 76 เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ Bethesda และผมคิดว่าเขาจะเร่งพัฒนา  The Elder Scrolls VI" โดยเขายังระบุอีกว่าเกมจะออกในปีนี้ https://www.youtube.com/watch?v=OkFdqqyI8y4 ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่การคาดการณ์เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วการพัฒนาเกมเพียงแค่หนึ่งปีอาจจะเป็นเวลาที่น้อยเกินไปสำหรับเกมระดับ AAA เว้นแต่ว่าทาง Bethesda อยากจะสร้างชื่อเสียให้กับเกมลูกรักตัวเองอีกตัวดั่งที่เคยโดนด่ามาในเกม Fallout 76 ที่มา
03 Jan 2019
แฟนเกมรณรงค์ !! ให้ผู้พัฒนาใส่คุณยายที่เป็นแฟน Skyrim เข้าไปใน The Elder Scrolls 6
ถ้าให้นิยามคำว่า Youtuber สายเกมเราก็คงจะคิดถึงหนุ่มสาวต่างๆ ที่จะมาเห็นเกมสนุกๆ ให้เราดู แต่ผิดกับเธอคนนี้อย่างคุณยาย Shirley Curry วัย 80 ปี ที่เป็น Youtuber สายเกมและชอบเล่น The Elder Scrolls V: Skyrim เป็นชีวิตจิตใจ โดยตัวเธอนั้นมีผู้ติดตามมากถึง 417,101 Subscriber เลยทีเดียว https://www.youtube.com/watch?v=aU-Pstzxq3o ซึ่งเมื่องาน E3 ที่ผ่านมาทาง Bethesda ก็พึ่งจะประกาศเกม The Elder Scrolls 6 โดยตัวเธอเองนั้นก็ค่อนข้างผิดหวังเพราะเกมกว่าจะออกเธอก็อาจจะเล่นไม่ไหวแล้วโดยเธอบอกเอาไว้ว่า "โอ้ย !! ฉันเดาว่าคงจะเอาเกมตอกตะปูใส่ลงมาในโลงฉันด้วยนะ กว่าเกมภาคใหม่จะมาสงสัยฉันอายุ 88 พอดี งั้นฉันคงไม่ได้เล่นมันแน่นอน เลิกฝันเลย" ซึ่งพอหลังจากที่คุณยายได้โพสก็มีคนสนใจเป็นอย่างมาก จนมีคนไปตั้งแคมเปญรณรงค์ในเว็บไซค์ Change.org ที่จะให้ผู้พัฒนาสร้างตัวละครคุณยายคนนี้เข้าไปเป็น NPC ในเกม The Elder Scrolls 6 นั่นเอง โดยในเกม Skyrim ก็เคยมีการทำแบบนี้มาแล้วอย่าง NPC ที่ชื่อว่า Erik the Slayer โดยอ้างอิงมาจากชายที่ชื่อว่า Erik West แฟนเกมนี้ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งก่อนเกมปล่อย ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยากถ้าหากจะใส่ตัวละครคุณยายเข้าไป ที่มา Pcgamer  
27 Nov 2018
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "The Elder Scrolls"
James McAvoy ติด The Elder Scrolls IV: Oblivion มากจนต้องเผาแผ่นทิ้ง!
ถ้าพูดชื่อ James McAvoy ขึ้นมาเฉยๆ ใครหลายคนก็อาจจะสงสัยว่าเขาเป็นใครกันแน่ แต่หากบอกว่าเขาคือนักแสดงที่รับบทบาทเป็น Professor X ในวัยหนุ่ม จากภาพยนตร์ในซีรีส์ X-Men หรือจากภาพยนตร์ชื่อดังเรื่องอื่นจากฮอลลีวูดอย่าง Atonement, It: Chapter Two และ The Great British Bake-Off หรือกระทั่งการเข้ามาเป็นหนึ่งในนักพากย์หลัก ให้กับเกมแนวผจญภัยที่เพิ่งเปิดให้เล่นในวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมาอย่าง 12 Minutesใครหลายๆ คนเองก็อาจจะพอร้องอ๋อกันออกมาได้บ้าง จากบทสัมภาษณ์ภายในนิตยสาร Forbes นักแสดงหนุ่มอายุน้อยและมีชื่อเสียงอย่าง James McAvoy ก็ได้ออกมาพูดถึงวิดีโอเกมว่า เขาเล่นและติดเกม The Elder Scrolls IV: Oblivion มาก “มันเป็นเกมประเภทที่ผมเคยเล่นมาก่อนตอนเด็กๆ พวกเกมสวมบทบาทแบบ Zelda กับ Secret of Mana หรืออะไรเทือกๆ นั้น ผมชอบเกมแนวแฟนตาซีสวมบทบาทแบบนี้แหละ” McAvoy กล่าวอย่างไรก็ดีความรักที่เขามีต่อ The Elder Scrolls IV: Oblivion ก็เริ่มกลายเป็นปัญหาในตอนที่เขารับบทเป็นพระเอก ในหนังโรแมนติก-ดราม่าอิงประวัติศาสตร์ย้อนยุค เรื่อง Becoming Jane ร่วมกับ Anne Hathaway “ผมต้องเข้านอนตอน 4 ทุ่มเพื่อตื่นไปเข้ากองตอน 6 โมงเช้าในทุกๆ วัน แต่เพราะผมติดเกม Oblivion มาก สุดท้ายก็นั่งเล่นมันจนถึงตี 4 ทุกที แล้วมันก็มีครั้งนึงที่ผมลากยาวไปจนถึงตี 5 ครึ่ง แล้วอีก 10 นาทีรถก็จะมารับเข้ากองแล้ว! ผมก็เลยต้องหาทางแก้ปัญหาด้วยการเปิดเตาแก๊ส แล้วก็เอาแผ่นเกมไปเผาเสียเลย สำเร็จ! เราจบกันที่นี่ตรงนี้ ไม่เอาอีกแล้ว!”ซึ่งนั่นก็คือสุดสิ้นสุดของ James McAvoy กับ Oblivion แต่ที่น่าตลกไปมากกว่านั้นเลยก็คือ 4 ปีถัดมาตัวเขาก็ได้สานต่อบท Professor X ซึ่งเป็นบทบาทที่ถูกริเริ่มโดย Patrick Stewart นักแสดงอาวุโสผู้รับบทเป็น Emperor Uriel Septim VII ใน Oblivion นั่นเอง…แต่แม้ว่า James McAvoy จะสาบานต่ออะไรก็ตามในตอนนั้นว่าเขาจะเลิกเล่นเกม ทุกวันนี้เขาก็หวนกลับสู่วงการในช่วง Covid-19 พร้อมกับผองเพื่อนในเกม Call of Duty: Warzone “ผมกับเด็กๆ ของผมทั้ง 40 คน พวกเราคุยกันทุก 2-3 คืนเพื่อเล่น Warzone กัน แล้วในตอนที่เรากำลังคุยเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ความรัก และอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมากัน พวกเราก็โดนเด็กอายุ 12 จากประเทศอื่นถล่มเอารัวๆ เลย”เรียกได้ว่าเป็นข่าวขำขันสั้นๆ ที่เรียกรอยยิ้มจากเราได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว แม้ว่าตอนนี้ด้วยสถานการณ์โรคระบาดที่เกิดขึ้น จะทำให้ผลงานเรื่องใหม่ๆ ของ James McAvoy ยังไม่สามารถออกมาโลดแล่นสู่สายตาชาวโลกได้ แต่คุณก็ยังสามารถแวะเข้าไปฟังเสียงของเขาให้หายคิดถึงได้บ้างใน 12 Minutes เกมอินดี้ผจญภัยจากผู้พัฒนาอย่าง Luís António ที่วางจำหน่ายแล้วสำหรับ Xbox Series X/S, Xbox One และ PC ค่ะCredit: PCGamer
23 Aug 2021
The Elder Scrolls Online จะลง PS5 กับ Xbox Series X / S วันที่ 8 มิถุนายน 2021
หลังจากประกาศว่าจะมีการพอร์ต The Elder Scrolls Online มาลงให้กับเครื่องคอนโซลเจนใหม่อย่าง PS5 กับ Xbox Series X / S ด้วย ล่าสุดก็ได้มีการประกาศวันที่ออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว 8 มิถุนายน 2021 นี้พบกันแน่นอนสำหรับเวอร์ชันนี้กราฟิก, แสงเงา, ความละเอียดของพื้นผิว จะมีความสวยงามกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ผู้พัฒนาได้มีการปล่อยวิดีโอใหม่ ที่โชว์ความแตกต่างให้เห็นกันชัดๆ ออกมาด้วย สำหรับความเร็วในการดาวน์โหลดจะแตกต่างจากเครื่องเจนก่อนเป็นอย่างมาก ต้องขอบคุณ SSD ในเครื่องเล่นเกมเจนใหม่The Elder Scrolls Online วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4, Xbox One และ PC ตัวเกมเตรียมลงให้กับ PS5 กับ Xbox Series X / S วันที่ 8 มิถุนายน 2021<iframe width='560' height='315' src='https://www.youtube.com/embed/DrqRUcSLVd4' title='YouTube video player' frameborder='0' allow='accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture' allowfullscreen></iframe>Credit: https://gamingbolt.com/the-elder-scrolls-online-console-enhanced-comes-to-ps5-xbox-series-x-s-on-june-8
01 Apr 2021
Xbox Games Pass เตรียมเพิ่ม IP ชื่อดังของ Bethesda เข้ามาอีกกว่า 20 เกม
เรียกได้ว่าเป็นข่าวโคตรดีของชาว Xbox ในวันนี้ เมื่อมีการประกาศออกมาว่า IP เกมชื่อดังของ Bethesda ไม่ว่าจะเป็น Doom, The Elder Scrolls, Fallout, Dishonored และอื่นๆ อีกมากมายให้สมาชิก Xbox Games Pass สามารถโหลดมาเล่นได้ สำหรับชาว PC และมือถือ ที่เป็นสมาชิกระดับ Ultimate จะสามารถสัมผัส 16 จาก 20 เกมได้ผ่านระบบ Cloud Gaming ของ Xbox ด้วย โดยสามารถดูรายชื่อว่าเกมไหนสามารถเล่นที่ไหนได้บ้างข้างล่างนี้ Dishonored Definitive Edition (Console, PC, Cloud) Dishonored 2 (Console, PC, Cloud) Doom (1993) (Console, PC, Cloud) Doom II (Console, PC, Cloud) Doom 3 (Console, PC, Cloud) Doom 64 (Console, PC, Cloud) Doom Eternal (Console, PC, Cloud) The Elder Scrolls III: Morrowind (Console, PC) The Elder Scrolls IV: Oblivion (Console, PC) The Elder Scrolls V: Skyrim Special Edition (Console, PC, Cloud) The Elder Scrolls Online (Cloud, Console) The Evil Within (Console, PC, Cloud) Fallout 4 (Console, PC, Cloud) Fallout 76 (Console, PC, Cloud) Fallout: New Vegas (Console) Prey (Console, PC, Cloud) Rage 2 (Console, PC, Cloud) Wolfenstein: The New Order (Console, PC, Cloud) Wolfenstein: The Old Blood (Console, PC, Cloud) Wolfenstein: Youngblood (Console, PC, Cloud) Credit: https://www.videogameschronicle.com/news/xbox-games-pass-will-house-20-bethesda-games-from-tomorrow/
12 Mar 2021
Microsoft ประกาศ เกมใหม่ๆ ของ Bethesda อาจลงให้แค่ Xbox กับ PC เท่านั้น
ถือเป็นข่าวใหญ่มากๆ ช่วงปลายปี 2020 เมื่อ Microsoft ประกาศเข้าซื้อกิจการของ Zenimax Media บริษัทแม่จอง Bethesda ส่งผลให้เหล่าเกมเมอร์ตั้งคำถามว่า "เกมทั้งหมดของ Bethesda จะลงให้กับ Xbox เท่านั้นหรือเปล่า?" ซึ่งทางบริษัทได้ออกมายืนยันว่า "เกมไหนที่ประกาศลงให้กับเครื่องไหนบ้างไปแล้ว ก็จะไปลงให้ตามสัญญา" แต่สำหรับเกมที่จะออกหลังจากนี้มันเป็นอีกเรื่องครับ Phil Spencer ได้กล่าวว่า "ผมอยากให้เหล่าเกมเมอร์มีความคิดว่าเครื่อง Xbox ,PC และ Game Pass คือ แพลตฟอร์ม ที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับการเล่นเกมของ Bethesda ผมหมายถึงเกมใหม่ๆ ของพวกเขาบางเกม ที่จะลงให้กับ Xbox กับ PC เท่านั้น" เพื่อที่จะทำให้เหล่าเกมเมอร์รู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ คิดว่าน่าจะเป็นเกม IP ดังของ Bethesda ครับ ที่จะลงให้แค่ Xbox กับ PC ยกตัวอย่างเช่น The Elder Scrolls, Fallouts, และ DOOM อย่างไรก็ตามคุณ Spencer ใช้คำว่า "Some" หรือหมายถึงบางเกมเท่านั้น คิดว่าถ้ามีการตัดสินใจว่าเกมไหนควรลงให้กับ PS หรือ Switch ด้วย เกมนั้นก็น่าจะไปลงให้กับเครื่องทั้งสองเช่นกัน ล่าสุดทาง Bethesda ได้มีการปล่อยวิดีโอตัวใหม่ บอกเล่าถึงประประวัติศาสตร์ และการเติบโตของบริษัทตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา พร้อมกับปิดท้ายด้วยรูปภาพของ Zenimax Media กับ Xbox ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นการบอกใบ้ถึงอะไรรึเปล่า ต้องติดตามกันต่อไปครับ Credit : https://www.vg247.com/2021/03/09/microsoft-bethesda-some-new-exclusive-titles/
10 Mar 2021
E3 เตรียมจัด Digital Event ทดแทนในปี 2021
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ในปี 2020 มีงานอีเวนต์เกี่ยวกับเกมมากมายต้องถูกยกเลิกไปทั้งที่ยังไม่ได้จัด เนื่องจากปัญหา COVID-19 หนึ่งในนั้นคือ E3 หนึ่งในงานอีเวนต์เกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก แต่ในปี 2021 ดูเหมือนเราจะได้กลับมารับชมงานอีเวนต์นี้อีกครั้งในรูปแบบ Digital แทนครับ จากรายงานของ VGC ดูเหมือน ESA ได้ตัดสินใจที่จะจัดอีเวนต์ E3 ของพวกเขาแบบออนไลน์แทนในปีนี้ โดยได้มีการเริ่มส่งจดหมายเชิญ ไปให้กับเหล่าผู้พัฒนาจากที่ต่างๆ ทั่วโลกแล้ว น่าเสียดายที่ไม่มีข้อมูลเปิดเผยวันที่งานจะถูกจัดออกมาด้วย แต่ถ้าหากเป็นไปตามทุกๆ ปีที่ผ่านมา คิดว่าช่วงกลางปีนี้น่าจะได้รับชมพร้อมกันอย่างแน่นอนครับ ย้อนกลับไปหลายปีก่อนหน้านี้ The Elder Scrolls 6 ได้ทำการเปิดตัวครั้งแรกในงาน E3 ดังนั้นการกลับมาของงานในปีนี้ก็อาจนำข้อมูลของตัวเกมกลับมาบอกเราเพิ่มเติมด้วย นอกจากนี้ก็ยังมี Babylons Fall, Elden Ring, Final Fantasy 16, Battlefield 6, Dragon Age 4 และเกมอื่นๆ อีกมากมายที่เรายังไม่มีข่าวสารเกี่ยวกับเกมเพิ่มเติมเลย ไม่แน่ว่าเราอาจได้เห็นเกมเหล่านี้เพิ่มเติมในงานนี้ด้วยครับ Credit: GamingBolt
09 Feb 2021
The Elder Scrolls Online: Blackwood คือภาคก่อน Oblivion และมาเดือน 6 ปีนี้!
The Elder Scrolls เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์เกม RPG จากทาง Bethesda ที่ทำเนื้อเรื่องออกมาได้น่าสนใจ และมีความยาวเป็นอย่างมาก ซึ่งแม้แต่ตอนนี้ก็ยังมีการเสริมเติมแต่งเรื่องราวของจักรวาลเกมให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นในภาค The Elder Scrolls Online และเหมือนว่าแพตช์ต่อไปที่กำลังจะมี จะช่วยเสริมเนื้อเรื่องช่วงก่อนตัวเกมภาค 4 ครับ! The Elder Scrolls Online: Blackwood คือชื่อของ Expansion ตัวใหม่นี้ โดยเนื้อเรื่องของส่วนเสริมนี้จะอยู่ในช่วง 800 ปีก่อน The Elder Scrolls iV: Oblivion กล่าวถึงเรื่องราวของ Daedric Prince Mehrunes Dagon ผู้เป็นตัวร้ายหลักของตัวเกมภาค Oblivion มีกำหนดจะลงให้กับเครื่อง PC วันที่ 1 มิถุนายน 2021 นี้ และ 8 มิถุนายน 2021 สำหรับเครื่องคอนโซลครับ ทาง Bethesda ได้มีการปล่อย Trailer แรกของส่วนเสริมนี้ออกมาเมื่อวาน ซึ่งเชื่อว่าจะถูกใจแฟนเกมซีรีส์นี้อย่างแน่นอ นอกจากนี้ดูเหมือนส่วนเสริมใหม่นี้ยังมาพร้อมกับระบบ Companions ที่จะทำให้เราสามารถนำ NPC มาเป็นพวก เก็บเลเวลให้กับพวกเขาจนเก่งขึ้น และเอามาช่วยสู้ได้ รับชม Trailer ดังกล่าวได้ข้างล่างนี้ The Elder Scrolls Online วางขายแล้ววันนี้บน PS4, Xbox One และ PC Credit: IGN 
28 Jan 2021
เนื้อเรื่องของ The Elder Scrolls 6 อาจเกิดขึ้นใน Hammerfell ตามข้าวลือจริง!
นับตั้งแต่ Bethesda ประกาศว่า The Elder Sctolls 6 จะมาแน่ๆ ใน E3 ปี 2018 ก็นับได้จะครบ 3 ปี แล้ว ซึ่งเรายังแทบไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับภาคนี้เลย ว่าเนื้อเรื่องจะเกิดขึ้นที่ไหนอะไรยังไง (โดยปกติชื่อของภาคจะเป็นชื่อของประเทศ และเหตุการณ์ต่างๆ ในเนื้อเรื่องจะเกิดขึ้นในประเทศนั้น) ซึ่งหลังจากปล่อยให้รออยู่นานในที่สุด ก็มีการปล่อรูปภาพที่น่าจะเป็นประเทศของเนื้อเรื่องในภาคนี้ครับ "Transcribe the past and map the future" คือข้อความที่มาพร้อมกับโพสต์ดังกล่าว พร้อมกับภาพดวงไฟสามดวงที่อยู่เหนือแผนที่ของ Skyrim โดยดวงไฟ 2 ดวงข้างบนคือสถานที่สำคัญใน Skyrim แต่ดวงไฟข้างล่างนั้นกลับต่างออกไป เพราะมันเป็นดวงเดียวที่อยู่นอกประเทศ! แถมตำแหน่งดังกล่าวยังเป็นอาณาเขตของ Hammerfell ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวลือมากมายว่า จะเป็นประเทศที่ถูกนำมาใช้เป็นเซตติ่งของเนื้อเรื่องในภาคใหม่ที่กำลังจะมา Transcribe the past and map the future. ? Heres to a Happy New Year!? pic.twitter.com/bL44CzLDIE — The Elder Scrolls (@ElderScrolls) December 31, 2020 แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการบอกว่า Hammerfell จะสถานที่ซึ่งใช้สำหรับดำเนินเนื้อเรื่องในภาค 6 แต่ก็ยยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการเช่นกันว่าเนื้อเรื่องของภาคใหม่นี้จะเกิดขึ้นในประเทศดังกล่าวจริงๆ ก็คงได้แต่ต้องติดตามกันต่อไปว่าสิ่งที่ชาว Reddit เดากันอยู่ รวมถึงสิ่งที่เราคิดจะเป็นจริงหรือไม่ครับ Credit: GameInformer
05 Jan 2021
ได้เพื่อนใหม่!! Microsoft ประกาศเข้าซื้อบริษัทแม่ของ Bethesda Softworks
Microsoft ได้ประกาศเข้าซื้อกิจการของ ZeniMax Media ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Bethesda Softworks และทางผู้สื่อข่าวของ Bloomberg ได้โพสต์ข้อมูลผ่าน Twitter ทางการของเขาว่ามูลค่าการซื้อขายครั้งนี้อยู่ที่ 7.5 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ สองแสนสามหมื่นห้าพันล้านบาท) ในการประกาศเรื่องดังกล่าว Phil Spencer ได้แสดงความตื่นเต้นออกมาอย่างชัดเจนที่ได้ร่วมงานกับ Bethesda ซึ่งสตูดิโอใหม่ที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Xbox Game Studio นั้นประกอบไปด้วยสตูดิโอระดับ AAA มากมาย ได้แก่ Bethesda Game Studio, id Software, MachineGames, Tango Gameworks และ Arkane Studios นั่นหมายความว่าแฟรนไชส์ยอดนิยมอย่าง The Elder Scrolls, Fallout, Starfield, Wolfenstein, DOOM, Prey, Dishonored, The Evil Within และ Quake ก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft ในทันที ที่น่าตลกคือ GhostWire: Tokyo กับ Deathloop ที่ได้กลายเป็นของ Microsoft แล้วจะเป็นเกม Exclusive ชั่วคราวบนเครื่อง PlayStation 5 ในปี 2021 แต่ถึงอย่างนั้นตอนนี้ก็เรียกได้ว่า Microsoft ได้ขุมกำลังใหม่เข้าร่วมกับฝ่ายของตนแล้ว เมื่อรวมกับสตูดิโอที่มีอยู่แล้วอย่าง 343 Industries, Ninja Theory, Playground Games และสตูดิโออื่นๆ อีกมาก นี่ดูเหมือนว่า Microsoft กำลังเตรียมพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างเต็มตัวแล้ว! Credit: Gamingbolt
22 Sep 2020
The Elder Scrolls: Blades เปิดให้บริการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว
เมื่อย้อนกลับไปยังงาน E3 2018 ทาง Bethesda ได้เผยโฉมตัวอย่างเปิดตัว The Elder Scrolls VI เป็นครั้งแรก ซึ่งภายในวิดีโอจะมาพร้อมกับอาณาจักร Tamriel ที่่ค่อยๆ ปรากฏตัวท่ามกลางม่านหมอก ถือเป็นฉากที่สวยงามและทำให้แฟนคลับของ The Elder Scrolls ได้อิ่มเอมไปกับความตื่นเต้น ถึงแม้ว่าวันที่วางจำหน่ายของ The Elder Scrolls VI จะยังไม่มีการยืนยันออกมา แต่วันนี้ The Elder Scrolls: Blades ผลงานเกมใหม่จาก Bethesda Game Studios (ผู้สร้างสรรค์ Skyrim) ได้เปิดให้บริการบน iOS และ Android ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ววันนี้ ซึ่งจะเป็นตัวเกมภาคล่าสุดที่มาพร้อมสไตล์กราฟิกคล้ายคลึงกับ Morrowind และ Oblivion อีกทั้ง The Elder Scrolls: Blades จะมอบประสบการณ์แบบ The Elder Scrolls บนโทรศัพท์มือถือด้วย เนื้อหาของ The Elder Scrolls: Blades เกี่ยวข้องกับตัวละครของผู้เล่นที่เป็นหนึ่งในทหารกล้าของจักรพรรดิ์ ทว่าการล่มสลายของจักรพรรดิ์ก็ทำให้เราต้องระหกระเหินกลับมายังบ้านเกิด จนกระทั่งเมื่อกลับมาถึงบ้านก็พบว่าแผ่นดินอันเป็นที่รักได้ถูกทำลายลงเหลือเพียงซากปรักหักพัง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การผจญภัยครั้งใหม่ของเราต้องเริ่มขึ้นอีกครั้ง ผู้เล่นจะมีหน้าที่ในการฟื้นฟูบ้านเมืองกลับสู่ความเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง ตลอดการเดินทางของเราจะพบกับดันเจี้ยน, ปราสาท, ป่า และ ถ้ำหลากหลายแห่งรอคอยให้เราเข้าไปสำรวจ นอกจากนั้นยังมีภารกิจการช่วยเหลือชาวเมืองที่ถูกกัก ต่อสู้กับราชินี Bloodfall Queen และทหารของ Necromancer ซึ่งพวกเราจะสามารถปรับแต่งรูปลักษณ์และเผ่าพันธุ์ของตน, ก่อสร้างเมืองขึ้นมาใหม่ และพบปะกับเพื่อนต่างสายพันธุ์ ต่างปูมหลัง เช่นเดียวกับเมืองที่ขยับขยายมากขึ้น The Elder Scrolls: Blades ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์การหมุนหน้าจออัตโนมัติ หากผู้เล่นต้องการมุมมองที่กว้างขึ้น ก็สามารถสนุกกับการต่อสู้ด้วยการกลับอุปกรณ์สมาร์ทโฟนในแนวขวาง หรือจะเล่นเกมด้วยมือข้างเดียวในหน้าจอแบบ Portrait Mode ก็ได้เช่นกัน อีกทั้งการเลือกอุปกรณ์หรือทักษะต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้แบบ PVP ซึ่งผู้เล่นจะมีโอกาสในการเลือก Loadout สำหรับการต่อสู้ล่วงหน้า, เลือกใช้ฟังก์ชั่น Quick Equipment และปรับสกิลให้เข้ากับศัตรูที่กำลังเผชิญหน้า และเอาชนะพวกเขาให้ได้ ด้วยพลังกราฟิกระดับ AAA, การสำรวจดันเจี้ยนที่ไม่มีวันสิ้นสุด, เนื้อเรื่องพร้อมการหักมุม และการต่อสู้ในรูปแบบ PVP ทำให้ The Elder Scrolls: Blades เป็นประสบการณ์เกม RPG ที่สนุกและน่าตื่นเต้นสำหรับอุปกรณ์มือถือ และยังช่วยให้ The Elder Scrolls: Blades ได้รับรางวัลมาากมายไม่ว่าจะเป็น Google Play Best of 2019, Apple Best of 2019 Game Trend of the Year หลังจากการได้ให้บริการในสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2019 แล้วคุณพร้อมจะออกเดินทางแล้วหรือยัง? ก่อนจากกัน อย่าลืมทำชุดคำถามเพื่อให้ผู้เล่นได้เตรียมความพร้อมก่อนการผจญภัยด้วย มาทดสอบทักษะกันในบททดสอบการเอาตัวรอดกันที่นี่ได้เลย LINK เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.playbladesasia.com ดาวน์โหลดเกมบน Android หรือ iOS: https://app.adjust.com/xz3yfzi แฟนเพจบน Facebook: https://www.facebook.com/TESBladesTH/ Twitter: https://twitter.com/TES_Blades_TH  
30 Jun 2020
คุณยายเกมเมอร์ เผยเครียดมากหลังอ่านคอมเมนต์ ที่บอกให้เธอควรไปเล่นเกมอื่น
Shirley Curry คือชื่อของคุณยายเกมเมอร์ ที่มักจะเล่นเกม The Elder Scrolls Skyrim และอัพลงคลิปลง Youtube ช่องของเธอ หรือที่รู้จักในชื่อ "Skyrim Grandma" แน่นอนว่าคุณยายไม่ใช้คนที่เล่นเกมเก่งอะไรมากมาย แต่เธอก็ดูมีความสุขไปกับการเล่นเกมในแบบของเธอ แถมยังเป็น Youtuber ที่อัพวิดีโอใหม่เร็วมากๆ อีกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากนี้ดูเหมือนเราจะได้เห็นวิดีโอของเธอน้อยลงครับ! Shirley Curry ได้อัพโหลดวิดีโอใหม่ล่าสุด เปิดเผยความในใจว่าเธอรู้สึกเครียดมาแค่ไหน หลังจากอ่านบาง Comment ซึ่งเธอไม่ได้เปิดเผยออกมาตรงๆ ว่า Comment พวกนั้นเขียนว่าอะไร แต่ดูจากวิธีพูดของเธอแล้ว คิดว่าคงไม่พ้นความหมายประมาณว่า "คุณยายควรไปเล่นเกมอื่นจะดีกว่า" แน่นอนว่าตัวเธอรู้ดีว่าไม่ควรปล่อยให้ Comment พวกนั้นมาทำให้เครียด แต่มันก็ยังเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเธออยู่ดี อีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เธอรู้สึกเครียด คือเรื่องที่ช่องของเธอมีคนติดตามสูง 831,000 แต่ยอดคนดูของแต่ละคลิปกลับอยู่ที่ 5,000-9,000 เท่านั้น ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกว่าใช้เวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ ดังนั้นเธอจึงมีความรู้สึกว่า เธอควรถ่อยหลังสักก้าว อัพวิดีโอให้น้อยลง และหันมารักษาสุขภาพจิตใจของตัวเองจะดีกว่า ก็ได้แต่หวังว่าคุณยาย Shirley Curry จะมีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นในเร็ววันครับ Credit: Kotaku สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
26 May 2020
The Elder Scrolls: Blades เตรียมเปิดลงทะเบียนล่วงหน้าในเอเชีย
ใครที่กำลังติดตามข่าวคราวอยู่ขอให้เตรียมตัวให้ดีเพราะว่า The Elder Scrolls: Blades มีกำหนดเปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าในวันนี้ ซึ่งตัวเกมเป็นเกมแนว Action RPG บนมือถือจากค่ายเกม Bethesda Game Studios ผู้อยู่เบื้องหลังผลงาน Skyrim ที่ได้รับรางวัลมากมาย ออกเดินทางและต่อสู้ใน Tamriel ผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่งในหน้าจอโทรศัพท์ของคุณ The Elder Scrolls: Blades มอบประสบการณ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพื่อแฟนๆ ที่ชื่นชอบเกมแนวแฟนตาซีระดับ AAA ในฐานะที่เป็นเกม RPG มุมมอง First-person ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์พกพา ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเกมบนมือถือ แต่ The Elder Scrolls: Blades ก็มาพร้อมเทคโนโลยี Post-processing แบบล้ำสมัยที่เรนเดอร์สภาพแวดล้อมภายในเกมให้ออกมาดูสวยงามไม่ต่างกับเครื่องเล่นคอนโซลทีเดียว นอกจากนั้นแล้ว The Elder Scrolls: Blades ยังมีระบบการต่อสู้แบบมุมกล้องบุคคลที่หนึ่งสุดเจ๋งเพื่อต่อกรกับศัตรูมากมายตั้งแต่ยักษ์, กอบลิน, เหล่าผู้ใช้เวทมนตร์ หรือแม้กระทั่งมังกรในตำนาน เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่โลกของ The Elder Scrolls: Blades ผู้เล่นจะได้ดำดิ่งเข้าไปสู่ป่ามายา, ถ้ำ, โบราณสถาน และปราสาทสุดอลังการภายในอาณาจักร Tamriel เรียกได้ว่าเป็นเกมที่มีทั้งสภาพแวดล้อมสวยงาม, ระบบต่อสู้เรียลไทม์สุดเจ๋ง และการควบคุมที่ลื่นไหล สานต่อตำนานของเกมตระกูล The Elder Scrolls และกุมชัยชนะมาให้ได้ ซีรี่ส์ The Elder Scrolls ทั้งเกม The Elder Scrolls: Arena ไปจนกระทั่ง The Elder Scrolls: Skyrim ล้วนมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Tamriel ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือจักรพรรดิ์ที่ถูกจองจำ, สืบสวนคดีระทึกขวัญของจ้าวแห่ง Daggerfall, เปิดโปงแผนร้ายของ Dagoth Ur ไปจนกระทั่งช่วยจักรพรรดิ์ตามหาบรรพบุรุษ และช่วยเหลือมังกร Alduin... ต่อมาเมื่อเกิดสงครามครั้งใหญ่ขึ้น หัวเมือง Imperial City ก็ตกอยู่ในสถานะระส่ำระส่ายอีกครั้ง ซึ่งผู้เล่นจะได้รับบทเป็นกองทัพทหาร Blades ที่ถูกฝ่าย White-Gold Concordat ตามทำลายล้างจนแตกพ่าย ครั้นเมื่อเรากลับมายังบ้านเกิดก็กลับพบว่าสถานที่แห่งนี้ถูกเผาจนมอดไหม้ และนี่ก็คือการเดินทางครั้งใหม่ของ The Elder Scrolls: Blades ที่กำลังจะเริ่มขึ้น The Elder Scrolls: Blades เปิดให้บริการครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกาในปี 2019 ด้วยกราฟิกคุณภาพสูงและฉากการต่อสู้อันน่าอัศจรรย์ รวมไปถึงเนื้อหาสุดแฟนตาซี ก็ทำให้ตัวเกมได้รับรางวัล Google Play Best of 2019, Apple Best of 2019 Game Trend of the Year: Blockbusters Reborn, The Hollywood Music in Media Awards: Best Song/Score – Mobile Video Game พร้อมทั้งรางวัลจาก E3 อีกมากมาย สำหรับผู้เล่นในเอเชียจะมีกิจกรรมลงทะเบียนล่วงหน้าสุดพิเศษซึ่งจะแจกให้เมื่อมียอดผู้ลงทะเบียนครบ 200,000 คน นั่นก็คือภาพ Avatar เอ็กคลูซีฟที่แจกให้กับเกมเมอร์ในภูมิภาคนี้เท่านั้น ว่าแล้วก็อย่ารอช้ารีบติดตามแฟนเพจเพื่อรับฟังข้อมูลข่าวสาร หรืออัปเดตกันได้ทันที! เว็ปไซต์ทางการ: https://playbladesasia.com Android/iOS Pre-Order: https://app.adjust.com/xz3yfzi Facebook แฟนเพจ: https://www.facebook.com/TESBladesTH/ Twitter: https://twitter.com/TES_Blades_TH  
15 May 2020
The Elder Scrolls: Blades เปิดให้เล่นบนเครื่อง Nintendo Switch แล้ว!
หลังจากมีข่าวว่าต้องเลื่อนวันเปิดให้เข้าเล่นออกไป ในที่สุดเกม The Elder Scrolls: Blades ก็สามารถเล่นได้บนเครื่อง Nintendo Switch แล้วครับ! โดยผู้เล่นสามารถเข้าไปกดโหลดได้ฟรีเลยผ่าน Nintendo Switch eShop นอกจากนี้ยังมีการปล่อย Launch Trailer ออกมาอีกด้วย สามาารถรับชมได้ข้างล่างนี้เลยครับ! ตัวเกมยังรองรับระบบ Cross-Platform และ Cross-Progression อีกด้วย กล่าวคือถ้าหากผู้เล่นไม่ได้มีโทรศัพท์มือถือที่สเปคสูงมากพอจะเล่นเกมนี้ได้อย่างลื่นไหล ก็สามารถลิงก์ Bethesda Account กับเครื่อง Nintendo Switch แล้วเปลี่ยนมาเล่นบน Console แทน แต่ยังสามารถทำกิจกรรม, ต่อสู้, พูดคุบกับเพื่อนๆ หรือคนในกิลที่เล่นผ่านมือถืออยู่ได้เหมือนเดิมครับ นอกจากนี้การเปิดให้เล่นบนเครื่อง Nintendo Switch นี้ ยังมาพร้อมกับเควสใหม่อีก 6 เควส, เนื้อเรื่องใหม่ที่จะพาผู้เล่นไปพบกับ Grand Champion, การจัดอันดับ PvP ถูกรีเซ็ตใหม่ โดยคนที่สามารถขึ้นไปอันดับสูงๆ จะได้รับของรางวัลเพิ่มเติมด้วย ในส่วนของผู้เล่น Early Access จะได้รับของตกแต่งสุดพิเศษเมื่อทำการ Log in เข้าเกมครับ Credit: VG247 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
15 May 2020
The Elder Scrolls: Blades จะเปิดให้เล่นบน Nintendo Switch ปลายสัปดาห์นี้!
The Elder Scrolls Blade นั้นเป็นเกมมุมมองบุคคลที่ 1 ที่เปิดให้เล่นฟรีบนมือถืออยู่ในตอนนี้ ตัวเกมดังกล่าวมีกำหนดจะลงให้กับเครื่อง Nitnedo Switch ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งสุดท้ายตัวเกมก็ยังคงไม่ได้เปิดให้เล่นได้บนเครื่อง Switch ในวันดังกล่าว แต่ล่าสุดก็ได้มีการประกาศออกมาแล้วว่าตัวเกมน่าจะเปิดให้เล่นได้ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2020 นี้แทนครับ ซึ่งเมื่อตัวเกมเปิดให้สามารถเข้าไปเล่นได้อย่างเป็นทางการ ผู้เล่นสามารถที่จะจ่ายเงิน $14.99 เพื่อซื้อ "Quick-Start Edition" ของตัวเกมได้ด้วย โดยแพ็คเกจดังกล่าวจะมอบ ชุด,อาวุธ, วัตถุดิบในการสร้างเมือง, ม้วนคัมภีร์เวทย์หายาก, Gems 2,000 เม็ด และเงินอีก 30,000 เพื่อให้สามารถเล่นเกมนี้ในช่วงแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ตัวเกมเวอร์ชั่นที่จะลงให้กับเครื่อง Switch ยังได้เพิ่มระบบ Motion Control Support, Cross-Platform PvP Matches เข้ามาอีกด้วย ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องที่ว่าจะหาห้องนาน หรือไม่มีเพื่อนเล่นด้วยไปได้เลยครับ The Elder Scrolls: Blades เปิดให้สามารถเล่นได้ฟรีแล้ววันนี้บน iOS กับ Android ตัวเกมกำลังจะเล่นได้บนเครื่อง Nintendo Switch ในช่วงปลายอาทิตย์นี้ครับ Credit: NintendoLife สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
13 May 2020
ผู้พัฒนาเผย "ข้อมูลของ The Elder Scrolls VI จะปล่อยได้ในอีก 1 ปีต่อจากนี้"
The Elder Scrolls VI คือภาคต่อของซีรีส์เกม RPG ที่ เหล่าแฟนๆ รอคอยมาตลอด ตัวเกมถูกประกาศเปิดตัวครั้งแรกในงาน E3 2018 แต่จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ทราบข่าวสารอะไรเกี่ยวกับเกมนี้เพิ่มเติมเลย แฟนๆ ก็ได้แต่เฝ้าถามว่า "เมื่อไหร่เราถึงจะได้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาคต่อของเกม RPG นี้สักที" โดยจากข้อมูลล่าสุด กว่าเราจะได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้มากขึ้น คงจะต้องเป็นปี 2021 เลยครับ! บน Twitter มีคนโพสต์ข้อความถาม Pete Hines ที่เป็นรองประธานฝ่ายการตลาดของ Bethesda ว่า "เมื่อไหร่เราจะได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับเกม The Elder Scrolls 6?" โดยคุณ Pete Hines ได้ตอบคำถามนั้นว่า "นั้นคงจะเป็นหลังจากที่เกม Starfield วางจำหน่าย ซึ่งพวกคุณยังไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเกมดังกล่าวเลย ดังนั้นถ้าพวกคุณต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้จากผมในตอนนี้ หรืออีก 1 ปี ต่อจากนี้ มันคงเป็นไปไม่ได้" จากข้อความนี้ทำให้มีความเป็นไปที่เราอาจจะได้ทราบข้อมูลของเกม The Elder Scrolls 6 ในช่วงนี้ของปี 2021 ครับ https://twitter.com/DCDeacon/status/1259619185879142402 https://twitter.com/DCDeacon/status/1259667482496958468?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1259667482496958468&ref_url=https%3A%2F%2Fwww.pcgamer.com%2Fbethesda-says-it-will-be-years-from-now-before-we-get-elder-scrolls-6-details%2F Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
12 May 2020
สั้นยาวแตกต่างกัน ‘จำนวนเวลา’ นั้นสำคัญหรือไม่ในชิ้นงานวิดีโอเกม
‘เมื่อคุณนั่งอยู่กับสาวสวยสองชั่วโมง มันดูผ่านไปรวดเร็วเพียงไม่กี่นาที แต่เมื่อนั่งบนเตาไฟไม่กี่นาที มันดูยาวนานราวชั่วโมง’ ประโยคนี้ คือคำอธิบายสุดคลาสสิคของทฤษฏีสัมพัทภาพ (Theory of Relativity) อันเป็นหนึ่งในแนวคิดสำคัญของทฤษฏีฟิสิกส์ดาราศาสตร์ของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ สุดยอดนักวิทยาศาสตร์แห่งศตวรรษที่ 20 ที่ใช้บรรยายเรื่องยากให้สามารถเข้าใจได้อย่างง่ายๆ ให้เห็นภาพได้ภายในประโยคเดียว (ตามวิสัยที่แกเป็นนักวิทยาศาสตร์สุดเฟื่องและขึ้นชื่อในเรื่องอารมณ์ขันอันรุ่มรวยที่ช่วยให้โลกวิทยาศาสตร์ไม่เป็นยาขมไหม้ในลำไส้ไปเสียก่อน...) แน่นอนว่าผู้เขียนไม่ได้จะพาคุณผู้อ่านไปทำความเข้าใจในเรื่องของฟิสิกส์ดาราศาสตร์ (เพราะมันคงกินโควต้าหน้าบทความจนเกินไป รวมถึงไม่มีความเข้าใจในเชิงลึกด้วยสติปัญญาที่แม้แต่ตารางธาตุก็ยังจำไม่ได้...) แต่กำลังจะเกริ่นนำถึงสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกได้ถึงเวลาที่ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ตัว ใช่แล้ว มันไม่ใช่สิ่งอื่นใด หากแต่เป็น ‘วิดีโอเกม’ ที่เรารักและคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี เหล่านี้ เป็นประสบการณ์ที่เราต่างพบเจอกับสภาวะเวลาไหลผ่านกันมาแล้วนักต่อนัก ไม่ว่าจะปรากฏการณ์ ‘ขออีกตา’ ในซีรีส์ Civilization ไปจนถึงการทุ่มเทเวลาอย่างสมบุกสมบันในเกมสวมบทบาทอย่าง The Elder Scrolls ในแต่ละภาค (ที่อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้เวลาประมาณ 40 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำในการจบหนึ่งรอบการเล่น ไม่นับการดัดแปลงด้วย Mod และเนื้อหาเสริมอีกจำนวนมหาศาลให้เลือกเล่น…) นั่นคือคุณสมบัติของวิดีโอเกมที่เชื่อว่าหลายคนน่าจะต้องเคยผ่านมันมาบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อย กระนั้นแล้ว ภายใต้สภาวะการไหลผ่านของเวลาที่รวดเร็วโดยไม่รู้ตัวเมื่อพาตนเองจมอยู่กับความสนุกของชิ้นงานเกม มันได้กลายมาเป็นคำถามสำคัญว่า  แท้จริงแล้ว ‘ความยาว’ ที่เกมหนึ่งๆ ควรจะมีนั้น สำคัญมากน้อยแค่ไหนในโลกยุคปัจจุบัน? แน่ล่ะ เราอาจจะอนุมานเอาได้ว่า ยิ่งมากก็ยิ่งดี เมื่อพิจารณาในแง่ของความคุ้มค่าของชิ้นงานต่อราคาที่ผู้เล่นจะต้องจ่ายเพื่อให้ได้ความสนุกที่ว่า (ที่ราคาเกมออกใหม่ก็มักอยู่ที่ 60 เหรียญสหรัฐฯ โดยเฉลี่ยในปัจจุบัน…) แต่มันก็ยังคงมีความลักลั่นอยู่ ภายใต้การหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความยาวของเกม กับประสบการณ์ที่ผู้เล่นจะได้รับในชิ้นงานนั้นๆ (เพราะวิดีโอเกม คือสื่อความบันเทิงชนิดหนึ่ง การที่เราจะถือเรื่องจำนวนเป็นประกาศิตราวกับว่าเป็นแพ็คม้วนกระดาษชำระ ห่อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า หรือยกโหลน้ำยาปรับผ้านุ่มก็คงจะเป็นการเทียบที่ผิดฝาผิดตัวไปสักนิด…) เช่นนั้นแล้ว ความลักลั่นของคำถามเหล่านี้จะไปจบลงที่จุดไหน? และหนทางแบบใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับชิ้นงานเกม? ผู้เขียนเองก็มีประสบการณ์การเล่นเกมมาไม่น้อย เคยผ่านเกมที่เล่นอย่างยาวนานซ้ำไปซ้ำมาด้วยจำนวนเวลานับร้อยชั่วโมง หรือประสบการณ์กับเกมอินดี้สัญชาติเบลเยียม ที่มีจำนวนเวลาการเล่นสั้นที่สุดเพียง 5 นาทีจบในสนนราคา 99 บาทไทย (และเป็นสิ่งที่จดจำลืมไม่ลงเพราะไม่เคยเจอชิ้นงานแบบ Experimental เช่นนี้มาก่อนในชีวิต เป็นความเหวอที่ฝังใจไปอีกนาน…) และได้ข้อสรุปกับตนเองเอาไว้อย่างหนึ่งว่า บางที จำนวนเวลาอาจจะไม่ได้สำคัญมากนัก ตราบเท่าที่มันยังมี ‘คุณภาพ’ ของการใช้เวลานั้นๆ ได้อย่างครบถ้วน เพราะไม่ว่าจะเวลานับพันกว่าชั่วโมงในรอบเจ็ดปีที่ผู้เขียนทุ่มเทลงไปในเกมออนไลน์อย่าง Final Fantasy XIV Online หรือเวลาไปกว่าสองร้อยชั่วโมงกับ XCOM2 ผ่านการเล่นซ้ำห้ารอบ ทั้งหมด ถ้าเราได้รับความสนุกจากมัน ถ้ามันเคารพเวลาที่เรามีให้ และเป็นความคุ้มค่าที่ผ่านการ Crafted เป็นอย่างดี และเป็นสิ่งที่ผู้สร้างได้พิจารณาแล้วว่า เป็นจำนวนเวลาที่เหมาะสมสำหรับประสบการณ์การเล่นนั้นๆ เรื่องจำนวนเวลาหรือความยาวเกมอาจจะไม่ใช่สาระสำคัญที่ต้องเอามาใส่ใจ กระนั้นแล้ว ไม่ใช่ทุกชิ้นงานจะสามารถเข้าถึงสมดุลระหว่างปริมาณและคุณภาพได้อย่างเหมาะสม หลายเกมเลยทีเดียว ที่โฆษณาตนเองเอาไว้ว่ามีจำนวนชั่วโมงการเล่นที่ยาวนานนับร้อยชั่วโมง ก็เป็นเพียงกิจกรรม Sandbox ซ้ำๆ หรือภารกิจที่น่าเบื่อหน่ายที่ถูกวนเวียนมาให้ทำอย่างไม่รู้จบ มีส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องที่ถูกใส่เข้ามาอย่างมากมายเพียงเพื่อจะได้เอามาทบเป็นจำนวนชั่วโมงที่ยาวนาน ให้ผู้ซื้อรู้สึกถึงความคุ้มค่าต่อราคาที่ต้องจ่ายไปมากที่สุด ที่กลับกลายมาเป็นความทรมานและไม่หลงเหลือสิ่งใดให้จดจำ หรืออยากจะกลับไปเล่นมันซ้ำอีกครั้ง (หรือที่สำนวนภาษาอังกฤษใช้ว่า wear out of ones welcome หรือนานเกินกว่าความจำเป็น...) แน่ล่ะ เรื่องของสนนราคาเองก็เป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาในความคุ้มค่าที่ผู้เล่นจะได้รับจากการจับจ่ายซื้อหามันมาเล่น (ที่นับวันจะยิ่งสูงขึ้นตามขนาดของอุตสาหกรรมที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด) แต่ก็อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น ถ้าเกมนั้นมีปริมาณความยาว เพื่อสักแต่ว่าจะยาว แต่เต็มไปด้วยคุณภาพที่ย่ำแย่ ปัญหาทางเทคนิคอย่างมากมาย หรือมีเนื้อหาที่น่าเบื่อหน่ายไม่ชวนให้จดจำ การจะทุ่มเทเล่นมันคงไม่ต่างอะไรกับการบำเพ็ญเพียรทุกกรกิริยาที่ไม่น่าจะพาเราไปถึงการรู้แจ้งอะไรมากมายนัก และเราก็คงรู้สึกเหมือนเอาเงินไปโปรยทิ้งอย่างเปล่าประโยชน์เสียมากกว่า (และในทางกลับกัน เกมที่สั้นจนเกินงามในสนนราคาที่ไม่เหมาะสมก็ถือเป็นจำเลยในคดีนี้ได้อย่างไม่ต่างกัน...) อนึ่ง ผู้เขียนคงไม่ขอไปชี้ขาดตัดสินในเรื่องของการใช้เวลาอย่างมีคุณภาพของพี่ๆ เพื่อนๆ ผู้อ่านแต่ละท่านว่าจะเลือกใช้เวลาไปกับชิ้นงานใด หรือเกมไหน ที่มีความคุ้มค่าในจำนวนเวลาที่มันมอบให้ (เพราะมันเป็นเรื่องที่อัตวิสัยความคิดใครความคิดมันโดยธรรมชาติอยู่แล้ว…) แต่สำหรับผู้สร้างแล้ว พวกเขาทั้งหลายต่างก็มุ่งหมายใจที่จะมอบประสบการณ์อันมีความหมาย ความสนุกสนานที่พร้อมจะมอบให้ และจำนวนเวลา ก็เป็นตัวแปรผันตรงที่ทีมสร้างได้พิจารณาเอาไว้แล้วว่า มัน ‘อาจจะ’ เหมาะสมภายใต้เงื่อนไขและโจทย์ดังกล่าว ซึ่งในบั้นปลายแล้ว ก็ต้องเป็นผู้เล่น ที่จะเป็นคนตัดสินว่า ความยาวที่ชิ้นงานเกมหนึ่งๆ ได้มอบให้ มีความสนุกคุ้มค่ามากแค่ไหน ภายใต้ปัจจัยแวดล้อมเสริมอย่างราคาและคุณภาพของเกมการเล่น ในตอนนี้ ผู้เขียนพึ่งจบภารกิจของ Persona 5 Royal ด้วยจำนวนเวลา 140 ชั่วโมงไปหมาดๆ ซึ่งแม้ว่ามันจะยาว แต่ก็เป็นความยาวที่คุ้มค่า เป็นงานสร้างที่ผ่านการคิดคัดสรรค์เป็นอย่างดี เป็นงานระดับ ‘Crafted’ ชั้นเยี่ยมที่จะติดตรึงฝังทนในความทรงจำไปอีกนาน และวาดหวังเอาไว้ว่า Final Fantasy VII Remake ที่พึ่งได้แผ่นมา จะมอบประสบการณ์ที่ดีไม่แตกต่างกัน รวมทั้ง Resident Evil 3 Remake ที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นกับตารู้กับมือ ว่ามันจะคุ้มค่าแม้จะถูกครหาเรื่องเวลาการเล่นมากน้อยแค่ไหน เพราะเช่นเดียวกับทฤษฏีสัมพัทภาพของไอน์สไตน์ เราต่างพึงพอใจที่จะใช้เวลาที่มีคุณภาพไปกับสิ่งที่ดี ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม และให้ความบันเทิงเริงใจ ไม่ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใด นั่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการเล่นวิดีโอเกม เพราะ ‘ความสนุก’ ก็ยังเป็นสิ่งที่ใช้ชี้ขาดได้ในบั้นปลายท้ายสุด ที่มันควรจะทำให้เรารู้สึกราวกับนั่งคุยกับสาวสวยที่ช่วยให้เวลาไหลผ่านอย่างรวดเร็ว มากกว่าต้องไปนั่งบนเตาไฟอย่างไม่รู้ว่าความทรมานที่แม้เพียงสักนาทีก็ถือว่าเกินกว่าจะทนได้จะจบลงเมื่อใด...  
13 Apr 2020
The Elder Scrolls Online: Greymoor ประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายแล้ว!
ในช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาดอย่างหนักอยู่ในตอนนี้ มันเป็นเรื่องยากมากเลย ที่จะทำงานที่บ้านแล้วยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่เหมือนกับอยู่ที่ออฟฟิศ เพราะยังไงการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีพร้อมต่อการทำงาน มันเป็นเรื่องที่ดีกว่าอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ใช้เรื่องแปลกเลยที่เราได้เห็นเกมมากมาย ต้องถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปในช่วงนี้ และในวันนี้ Elder Scrolls Online: Greymoor ก็เป็นอีกหนึ่งเกม ที่ต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปครับ! ได้มีการประกาศออกมาผ่านเว็บไซต์ของ The Elder Scrolls Online เองเลยว่า "เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ทีมพัฒนาจำเป็นต้องทำงานจากที่บ้านมาตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2020 ซึ่งมันทำให้การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบากมาก เลยทำให้ Elder Scrolls Online: Greymoor อาจต้องเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปอีก 1 สัปดาห์" แรกเริ่มเดิมทีตัว Expansion นี้ยังไม่มีกำหนดวันวางจำหน่ายชัดเจน แต่จะมาในเดือน มิถุนายน แน่ๆ การเลื่อนออกไป 1 สัปดาห์ จึงมีความเป็นไปได้ที่ตัวเกมจะวางจำหน่ายในช่วงต้นเดือน กรกฎาคม แทนครับ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าตัวเกมจะถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายออกไปถึง 1 สัปดาห์ แต่ตัว Public Test Server ของเกมยังคงจะมาในวันที่ 20 เมษายน 2020 เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ตัวเกมได้มีปัญหาหนึ่งอย่าง เพราะในประเทศฝรั่งเศสอยู่ในสภาวะ Lock Down ทำให้ทีมงานไม่สามารถไปอัดเสียงของตัวละครต่างๆ ในเกมได้ ดังนั้นในช่วงที่เกมวางจำหน่ายจะมีแค่เสียงพากย์ภาษาอังกฤษเท่านั้น แต่ยังคงมี Subtitle และ Text ที่เป็นภาษาฝรั่งเศสอยู่เหมือนเดิม The Elder Scrolls Online วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
09 Apr 2020
The Elder Scrolls Online เปิดให้เล่นฟรีเป็นเวลา 5 วันเต็ม
The Elder Scrolls Online เกมนี้หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จักเพราะว่าเป็นการนำเอาเกมขวัญใจเกมเมอร์สาย RPG อย่าง The Elder Scrolls มาทำเป็นรูปแบบออนไลน์ให้ผู้เล่นได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน สำหรับใครที่กำลังหาโอกาสที่จะลองเล่นเกมนี้ ในตอนนี้ก็ถึงเวลาอันสมควร The Elder Scrolls Online ประกาศเปิดให้ทดลองเล่นฟรี 5 วันเต็ม และได้ลดราคาตัวเกมลงเหลือเพียง 264 บาทสำหรับตัวเกมเวอร์ชัน Standard Edition ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับใครที่อยากจะลองเล่นเกมออนไลน์จากซีรีส์นี้แต่หาโอกาสในการลองเล่นเกมนี้ไม่ได้เสียที นอกจากนี้หากใครคิดว่าเหงาก็ขอให้คิดใหม่เพราะว่าเกมนี้มียอดผู้เล่นเฉลี่ยเดือนละ 14,691.8 คนเลยที่เดียวหากอ้างอิงจาก Steam Chart โดยตัวเกมจะทำการลดราคาตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 เมษายน 2020 Source : store.steampowered.com 
01 Apr 2020
The Elder Scrolls Online: Greymoor เปิดให้เล่นฟรีวันที่ 1 - 13 เม.ย นี้!
The Elder Scrolls Online เป็นอีกหนึ่งเกม MMORPG ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งก็ผ่านมาเกือบจะ 6 ปีแล้ว ตั้งแต่ตัวเกมวางจำหน่ายครั้งแรก แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังมีผู้ให้ความสนใจ และเล่นเกมนี้อยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยว่าใกล้จะครบรอบ 6 ปีตั้งแต่ตัวเกมวางจำหน่าย ทั้งยังใกล้วันวางจำหน่าย Greymoor ที่เป็น Expansion ใหม่ของเกมแล้ว ผู้พัฒนาเลยใจดีเปิดทั้งตัวเกม และ Prologue ของ Greymoor ให้เล่นฟรีเป็นเวลา 2 อาทิตย์ครับ! โดยอีเวนต์เปิดให้เล่นฟรีในครั้งนี้ ถูกประกาศออกมาผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ Elder Scrolls Online เองเลย ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าการเปิดให้เข้าไปเล่นฟรีทั้งตัวเกม และ Prologue ของ Greymoor นั้น เป็นโอกาสอันดีที่จะเพิ่มผู้เล่นใหม่ในเกม เพราะตัว Greymoor Expansion นั้นจะมีเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือดินแดน Skyrim จึงมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถดึงดูดเหล่าคนที่ชอบเล่นเกม The Elder Scrolls V: Skyrim ได้ครับ The Elder Scrolls Online วางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั้งบน PS4, Xbox One และ PC Credit: PCGamer ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  
01 Apr 2020
งานนี้ต้องมีเพื่อนลุย! กับเกม MMORPG น่าลองแห่งปี 2020
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า โลกแห่งเกมออนไลน์ขนาดใหญ่หรือ ‘MMORPG’ นั้น สนุกสนานและน่าลิ้มลองแค่ไหน และเติบโตต่อยอดจากจุดเริ่มต้นของมันในยุกแรกเริ่มมาไกลเพียงใด และเมื่อวิทยาการทางด้านการติดต่อสื่อสารพัฒนาให้มีความสะดวกมากขึ้น ก็ยิ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ทำให้ผู้พัฒนาหลายเจ้าตบเท้ากันเข้ามาสู่ตลาดแห่งเกมออนไลน์อย่างคึกคัก แต่ก็เช่นเดียวกับธรรมชาติของมัน ที่การเล่นเกม MMORPG เกมหนึ่งจะต้องทุ่มเทเวลาให้กับมันเป็นอย่างมาก (เพราะการแตะแค่ผิวเผินนั้นเป็นเพียงส่วนหน้าของเค้กแสนอร่อยชิ้นนี้เท่านั้น…) เราก็เลยขออาสาแนะนำ 5 เกม MMORPG ฝั่งตะวันตกที่ยังคงน่าเล่นน่าลิ้มลองในปี 2020 ไว้เป็นตัวเลือกให้คุณผู้อ่านได้พิจารณากันดูสักครั้ง World of Warcraft ปีที่วางจำหน่าย : พฤศจิกายน 2004 ผู้พัฒนา : Blizzard Entertainment ยังคงยืนหนึ่งในสายเกม MMORPG ที่ยาวนานมากว่า 15 ปี ผ่าน Expansion มาแล้วถึง 7 ตัว และภาคเสริมตัวล่าสุดอย่าง Shadowlands ก็กำลังจะวางจำหน่ายในปีนี้ ด้วยยอดผู้เล่นหลักสิบล้านคน และคอนเทนต์ที่ผ่านการสะสมมาอย่างมากมายในรอบหลายปีที่ผ่านมา ในจักรวาลของ Warcraft ซีรีส์คู่บุญของค่าย ที่จะรับประกันความสนุกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้เล่นหน้าเก่าสิงห์สนาม หรือหน้าใหม่ที่อยากจะเข้ามาลิ้มลองรสชาติแห่ง MMORPG ระดับตำนานเกมนี้ ไม่ว่าคุณจะชอบการสวมบทบาทแบบ PvE หรือปะทะในสนามรบแบบ PvP เกมนี้มีทุกรูปแบบให้คุณได้เล่นอย่างที่ใจปรารถนา จุดเด่น : คอนเทนต์มากมายมหาศาลให้เล่นกันไม่หวาดไม่ไหว, ระบบ User Interface ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด, เนื้อหาที่ครอบคลุมยาวนานมากว่า 15 ปีและไม่มีท่าทีว่าจะจบไปได้ง่ายๆ, ตัวเกมง่ายต่อการเข้าถึงและเป็นมิตรกับผู้เล่นหน้าใหม่อย่างมาก ข้อสังเกต : แม้จะรั้งตำแหน่งแถวหน้าของเกมแนว MMORPG แต่ยอดผู้เล่นที่ลดลงอย่างต่อเนื่องและการปรับของกราฟิกแบบการ์ตูนนั้นก็เป็นสัญญาณความเก่าอายุที่ไม่สู้ดีสักเท่าไร ภายใต้การแข่งขันที่โรมรันดุเดือดในสนามออนไลน์ ประกอบกับชื่อเสียของ Blizzard Entertainment ในรอบปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งผลักให้ผู้เล่นหน้าเก่าออกห่างมันมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ Final Fantasy 14 ปีที่วางจำหน่าย : 2009 (Legacy) , 2013 (A Realm Reborn) ผู้พัฒนา : Square-Enix อดีตผลงานเกม MMORPG สุดอัปยศในประวัติศาสตร์ สู่การผงาดและก้าวมาเป็นเพชรน้ำเอกแหล่งรายได้หลักของบริษัท Square-Enix อีกหนึ่งผลงานจากญี่ปุ่นคุณภาพระดับสากลที่ปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุก Expansion ที่ผ่านไป จนมาถึงตัวล่าสุด Shadowbringers ที่คว้าคะแนนเฉลี่ยที่ 91 จาก Metacritics สูงที่สุดเท่าที่เคยได้มา บวกกับยอดผู้เล่นที่ 16 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการ Cross-Platform ระหว่างพีซี แมค และ PS4 ก็น่าจะรับประกันอนาคตที่สดใสของโลกแฟนตาซีแห่งนี้ได้ค่อนข้างแน่ จุดเด่น : เนื้อหาเข้มข้นลุ่มลึก ต่อยอดเชื่อมโยงกันทั้งเนื้อหาหลักและรอง, หนึ่งตัวละครเล่นได้หลายคลาสสลับสับเปลี่ยนได้ตามที่ชอบใจ, ระบบ Crafting ที่เล่นได้สนุก, กราฟิกสวยงามสมยุค, เพลงประกอบสุดเฉียบ, หนึ่ง Account เล่นข้ามแพลทฟอร์มได้ ข้อสังเกต : เกมนี้เน้นความสำคัญของเนื้อเรื่องเป็นแก่นหลัก นั่นหมายความว่าสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ คุณจะต้องเริ่มต้นเรื่องราวตั้งแต่ A Realm Reborn ไล่ไปอีกสาม Expansion ซึ่งเป็นภาระที่หนักหนาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าทาง SQEN จะวางจำหน่ายไอเทมสำหรับ skip เนื้อหา และสัญญาว่าจะปรับปรุงความกระชับของเนื้อเรื่องช่วงต้นในแพทช์ 5.3 ที่กำลังจะออกก็ตาม แต่เราก็อยากให้คุณได้ลองเล่นมันด้วยตนเองอยู่ดีเพื่อสัมผัสความเข้มข้นของของแต่ละ Expansion และเรียนรู้การเล่นในแต่ละคลาสไปในตัว Star Wars: The Old Republic ปีที่วางจำหน่าย : 20 ธันวาคม 2011 ผู้พัฒนา : Bioware EA อีกหนึ่งผลงานเกมออนไลน์ที่แม้จะเปิดตัวไม่สวยนักในช่วงแรกที่วางจำหน่าย (ที่เป็นแบบจ่ายรายเดือน Subscription-Based) แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นแบบ Free-to-Play แล้ว เกมก็ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ นั่นเพราะมันคือส่วนผสมของเกม MMORPG ชั้นดีด้วยคลาสตัวละครที่หลากหลายพร้อมเรื่องราวและ NPC เฉพาะตัวให้การเล่นแต่ละรอบไม่ซ้ำกัน และเรื่องราวในจักรวาล Star Wars ยุค Old Republic ที่ทวีความเข้มข้นขึ้นในแต่ละภาค โดยเฉพาะกับภาคเสริมอย่าง Knights of the Eternal Throne และ Onslaught ที่ขนเอาตัวละครสุดคลาสสิคของเกม Knights of the Old Republic มาร่วมด้วย ถ้าได้ลองสักครั้ง เป็นต้องติดใจ จุดเด่น : คลาสตัวละครหลากหลายพร้อมเนื้อหาเฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำกัน, ระบบ Free-to-Play ที่ไม่ Pay-to-Win ที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ, เนื้อเรื่องเข้มข้น จับอารมณ์และแก่นของความเป็น Star Wars ได้อย่างเต็มเปี่ยม ข้อสังเกต : ตัวเกมที่ค่อนข้างเข้าถึงยากสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ และข้อจำกัดสำหรับผู้เล่นสายฟรีที่ยังน่ากังขาอยู่ไม่น้อย โชคดีที่การสมัครเป็นสมาชิกจ่ายครั้งเดียว สามารถให้สิทธิพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาได้ในอีกระดับแม้จะไม่ได้จ่ายต่อแล้วก็ตาม The Elder Scrolls Online (ESO) ปีที่วางจำหน่าย : 4 เมษายน 2014 ผู้พัฒนา : Zenimax Online Studios (จัดจำหน่ายโดย Bethesda Softworks) อีกหนึ่งเกม MMORPG แบบ Free-to-Play ชั้นเยี่ยมที่เราอยากจะแนะนำ ด้วยโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่ง Tamriel และการเล่นที่อาศัยทักษะการมีส่วนร่วมจนเกือบจะกลายเป็นเกมแอ็คชัน ผสมเข้ากับระบบสเกลเลเวลที่ทำให้ผู้เล่นสามารถไปได้ในทุกพื้นที่โดยไม่จำกัดผ่านการปรับปรุงเป็น ESO: Tamriel Unlimited เพิ่มความอิสระเป็นอย่างสูง บวกความลื่นไหลของคลาสและระบบการ Crafting ที่ยอดเยี่ยมจนเป็นที่จับตามอง ไม่มีครั้งไหนที่ตำนานแห่งโลกแฟนตาซีของ Bethesda อายุกว่าสองทศวรรษจะโลดแล่นได้ราวกับมีชีวิตได้เท่านี้อีกแล้ว จุดเด่น: คลาสตัวละครลื่นไหล รองรับการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ, โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลให้ออกสำรวจและค้นหา, ระบบ Crafting สุดสนุก, การเล่นแบบกึ่งเกมแอ็คชันรวดเร็วและท้าทาย, ระบบ Free-to-Play ที่ออกแบบมาดี ข้อสังเกต : การซื้อ The Elder Scrolls Online ผ่านระบบ Steam นั้นมีหลายเวอร์ชันอยู่มาก มีตั้งแต่ตัวหลักอย่างเดียวจนถึงแพ็คเกจที่รวมภาคเสริมล่าสุดอย่าง Greymoor ที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 2 มิถุนายนที่จะถึงนี้ อาจก่อให้เกิดความสับสน แต่สำหรับผู้เล่นที่ยอมจ่ายรายเดือน จะได้รับสิทธิในการเข้าถึงทุกคอนเทนต์ได้โดยไม่ต้องห่วงกังวลหรือซื้อเพิ่มแต่อย่างใด (หรือจะใช้หน่วยเงินในเกมเพื่อปลดล็อคภาคเสริมก็ได้) EVE Online ปีที่วางจำหน่าย : 6 พฤศภาคม 2003 ผู้พัฒนา : CCP Games อีกหนึ่งตำนานแห่งเกม MMORPG สาย Sandbox สำหรับผู้เล่นระดับฮาร์ดคอร์ที่ยืนยงคงกระพันมาถึง 16 ปีเต็ม ผลงานจากทีมพัฒนาสัญชาติไอซ์แลนด์เกมนี้ คือนิยามแห่งความเป็นอิสระแห่งจักรวาลที่แท้จริง ทุกสิ่งถูกขับเคลื่อนด้วยผู้เล่น ตั้งแต่กิจกรรม การค้าขาย การแลกเปลี่ยนทรัพยากร ไปจนถึงการก่อสงครามตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงสเกลใหญ่เศษยานกระจายในห้วงอวกาศ และสำหรับใครที่อยากลอง ตัวเกมยังเพิ่มเวอร์ชัน Free-to-Play เข้ามาในปี 2016 แต่ลดฟีเจอร์บางอย่างลงให้พอชิมลางกันก่อนตัดสินใจ จุดเด่น : ห้วงอวกาศอิสระอย่างไร้ขีดจำกัด, มีกิจกรรมให้ทำอยู่มากมาย, กราฟิกสวยงามล้ำหน้าเกม MMORPG ในสายเดียวกัน, การปรับแต่งยานที่ลงลึกถึงรายละเอียดทุกสเกล, มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากทีมสร้าง ข้อสังเกต : ที่กล่าวว่าเกมนี้คือชิ้นงานสำหรับฮาร์ดคอร์ไม่ใช่คำขู่ เพราะที่นี่คือ ‘แดนเถื่อน’ ขนานแท้ ด้วยระบบเกมที่รันโดยผู้เล่นเป็นตัวขับเคลื่อนทุกกิจกรรม ทำให้พื้นที่นอกโซนปลอดภัยช่วงเริ่มต้นกลายเป็นอาณาเขตมิคสัญญีที่หน้าใหม่อาจโดนระเบิดยานตายคาอวกาศเอาได้ง่ายๆ หรือการซื้อขายที่มีการ Scam ไปจนถึงสงครามจารชนทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามที่คิดมูลค่าความเสียหายเป็นหน่วยเงินจริงๆ สูงจนน่าตกใจ นี่จึงไม่ใช่เกมที่เหมาะไว้เล่นสำหรับการผ่อนคลาย แต่ก็เข้มข้นและน่าหาโอกาสลองดูสักครั้ง โลกแห่ง MMORPG ไม่ว่าจะชิ้นงานใด ต่างมีจุดเด่นที่เป็นเสน่ห์ในตัวของมันเอง เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สำหรับตัวเลือกที่เรานำมาเสนอทั้ง 5 ชิ้นงานนี้ จะกระตุ้นความสนใจของคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย และถ้าใครมีเกมออนไลน์ที่ชอบเล่น อย่าลืมมาแลกเปลี่ยนบอกเล่าให้เราฟังกันบ้าง บางที มันอาจจะกลายเป็นโลกใบใหม่ของใครต่อใครหลายคนโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้~
03 Mar 2020
นักวิเคราะห์คาด !! The Elder Scrolls VI อาจจะออกในปีนี้
หลังจากการเปิดตัวของเกม The Elder Scrolls VI ไปเมื่องาน E3 2018 ว่าตัวเกมกำลังพัฒนาอยู่ หลายๆ คนก็คาดว่าตัวเกมนี้อาจจะวางจำหน่ายใน Console เจนใหม่ก็เป็นได้ ซึ่งล่าสุดได้มีนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จาก Wedbush  อย่างคุณ Michael Pachter ได้ออกมาวิเคราะห์ว่าทาง Bethesda ผู้พัฒนาอาจจะกำหนดวันวางจำหน่ายเกม The Elder Scrolls 6 เร็วขึ้น คือในปี 2019 นี้ เพื่อกอบกู้ตัวเอง เนื่องจากการพังไม่เป็นท่าของเกม Fallout 76 "ความล้มเหลวของ Fallout 76 เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับ Bethesda และผมคิดว่าเขาจะเร่งพัฒนา  The Elder Scrolls VI" โดยเขายังระบุอีกว่าเกมจะออกในปีนี้ https://www.youtube.com/watch?v=OkFdqqyI8y4 ซึ่งนี่เป็นเพียงแค่การคาดการณ์เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วการพัฒนาเกมเพียงแค่หนึ่งปีอาจจะเป็นเวลาที่น้อยเกินไปสำหรับเกมระดับ AAA เว้นแต่ว่าทาง Bethesda อยากจะสร้างชื่อเสียให้กับเกมลูกรักตัวเองอีกตัวดั่งที่เคยโดนด่ามาในเกม Fallout 76 ที่มา
03 Jan 2019
แฟนเกมรณรงค์ !! ให้ผู้พัฒนาใส่คุณยายที่เป็นแฟน Skyrim เข้าไปใน The Elder Scrolls 6
ถ้าให้นิยามคำว่า Youtuber สายเกมเราก็คงจะคิดถึงหนุ่มสาวต่างๆ ที่จะมาเห็นเกมสนุกๆ ให้เราดู แต่ผิดกับเธอคนนี้อย่างคุณยาย Shirley Curry วัย 80 ปี ที่เป็น Youtuber สายเกมและชอบเล่น The Elder Scrolls V: Skyrim เป็นชีวิตจิตใจ โดยตัวเธอนั้นมีผู้ติดตามมากถึง 417,101 Subscriber เลยทีเดียว https://www.youtube.com/watch?v=aU-Pstzxq3o ซึ่งเมื่องาน E3 ที่ผ่านมาทาง Bethesda ก็พึ่งจะประกาศเกม The Elder Scrolls 6 โดยตัวเธอเองนั้นก็ค่อนข้างผิดหวังเพราะเกมกว่าจะออกเธอก็อาจจะเล่นไม่ไหวแล้วโดยเธอบอกเอาไว้ว่า "โอ้ย !! ฉันเดาว่าคงจะเอาเกมตอกตะปูใส่ลงมาในโลงฉันด้วยนะ กว่าเกมภาคใหม่จะมาสงสัยฉันอายุ 88 พอดี งั้นฉันคงไม่ได้เล่นมันแน่นอน เลิกฝันเลย" ซึ่งพอหลังจากที่คุณยายได้โพสก็มีคนสนใจเป็นอย่างมาก จนมีคนไปตั้งแคมเปญรณรงค์ในเว็บไซค์ Change.org ที่จะให้ผู้พัฒนาสร้างตัวละครคุณยายคนนี้เข้าไปเป็น NPC ในเกม The Elder Scrolls 6 นั่นเอง โดยในเกม Skyrim ก็เคยมีการทำแบบนี้มาแล้วอย่าง NPC ที่ชื่อว่า Erik the Slayer โดยอ้างอิงมาจากชายที่ชื่อว่า Erik West แฟนเกมนี้ที่เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งก่อนเกมปล่อย ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่น่าจะใช่เรื่องยากถ้าหากจะใส่ตัวละครคุณยายเข้าไป ที่มา Pcgamer  
27 Nov 2018